บทคัดย่อภาษาไทย

               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของวัดนครสวรรค์ตามหลักสังคหวัตถุ 4 (2) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของวัดนครสวรรค์ตามหลักสังคหวัตถุ ๔ จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคลและ (3) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอในการให้บริการของวัดนครสวรรค์

              โดยมีวิธีการดำเนินการวิจัย คือ ศึกษากับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 132 คน จากประชาชนที่มาทำบุญในวันพระประมาณ 200 คน โดยใช้ตารางกำหนดขนาดของ R.V.Krejcie &D.W.Morgan และใช้การสุ่มแบบอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเปรียบเทียบโดยการทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) เมื่อพบว่ามีความแตกต่างกันจึงทำการเปรียบเทียบรายคู่โดยมีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (Least Significant Difference : LSD )
               ผลการวิจัยพบว่า
              ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิง คิดเป็นร้อยละ 76.52 มีอายุ 51 ปีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 53.03 มีระดับการศึกษา ปวส./ปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 50.00 มีอาชีพรับราชการ/รัฐวิสาหกิจ คิดเป็นร้อยละ 28.03
              ประชาชนมีความพึงพอใจ ต่อการให้บริการตามหลักสังคหวัตถุ 4 ของวัดนครสวรรค์ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.96) เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้านเมื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการของวัดนครสวรรค์ตามหลักสังคหวัตถุ 4 พบว่า ประชาชนที่มีเพศ, อายุ, ระดับการศึกษา และอาชีพที่แตกต่างกัน
               มีความพึงพอใจต่อการให้บริการของวัดนครสวรรค์โดยรวมไม่แตกต่างกันข้อเสนอแนะ ควรมีการพัฒนาด้านการบริการอย่างมีประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้นควรส่งเสริมการให้มีการบริการที่จะสามารถนำมาซึ่งความพึงพอใจแก่ผู้รับบริการ ให้เกิดความประทับใจในการรับบริการทุกครั้งกับผู้รับบริการและผู้ให้มี สิ่งที่สำคัญก็คือควรยึดหลักสังคหวัตถุ4 ในการให้บริการ ควรสงเคราะห์ประชาชนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมกันและไม่เลือกปฏิบัติผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ วัดนครสวรรค์ควรคำนึงถึงหลักธรรมหลักสังคหวัตถุ 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้การบริการแก่ประชาชน

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

              The objectives of this research are: 1) to study the people’s satisfaction towards the service applying the four Sangahavatthus of Nakhon Sawan Monastery, 2) to compare the people’s satisfaction towards the service applying the four Sangahavatthus of Nakhon Sawan Monastery by separating people into groups of the different factors, and 3) to study the problems and suggest the Ways of service in Nakhon Sawan Monastery.
               For the conduct of the research, the samples were 132 people from 200 people who come on the Buddhist holy day. For the sampling, the researcher used the table of R.V. Krejcie & D.W. Morgan and selecting using the statistics to analyze data as follows:frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test, One-way ANOVA, Least Significant
Difference: LSD.
The results of the research were :
               Most of the people who answer the questions are 101females or 76.52 percent,70 people who are more than 52 years old or 53.03 percent, 66 people who finished higher certificate and bachelor degree or 50 percent, 37 people who work for government office and enterprise or 28.03 percent.The researcher found that totally, the satisfaction of people towards the service applying the four Sangahavatthus of Nakhon Sawan Monastery were in high level ( x̄ = 3.96). After considering each facto, it was found that the mean of every factor was in high level.
                After comparing the study the people’s satisfaction towards the service applying the four Sangahavatthus of Nakhon Sawan Monastery, the researcher found that the people have different sex, age, degree and occupation but no difference of satisfaction.
                 The suggestions of the service were as follows:
                The service should be developed to have more efficiency and to make the people have good impression and more satisfaction which can make the happiness for both giver and receiver. The important principle using for good service is the four Sangahavatthus. The administ rator authority of Nakhon Sawan Monastery should apply
this principle to use for efficient people service.

รายการไฟล์