-
ชื่อเรื่องภาษาไทยประสิทธิผลการบริหารงานของสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี
- ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษThe Administrative Effectiveness of Buddhism Office , Kanjanaburi Province
- ผู้วิจัยนายธนภัทร ทวีศรี
- ที่ปรึกษา 1พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตติปญโญ ดร.
- ที่ปรึกษา 2อาจารย์ ดร.ธิติวุฒิ หมั่นมี
- วันสำเร็จการศึกษา31/03/2014
- ส่วนงานจัดการศึกษา:
- ชื่อปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต (พธ.ม.)
- ระดับปริญญาปริญญาโท
- สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
- URI http://e-thesis.iteam.co.th/thesis/2014
- ปรากฏในหมวดหมู่วิทยานิพนธ์
- ดาวน์โหลด 177
- จำนวนผู้เข้าชม 177
บทคัดย่อภาษาไทย
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิผลการบริหารงานสํานักงาน พระพุทธศาสนา จังหวัดกาญจนบุรี 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของพระสังฆาธิการต่อประสิทธิผล ในการบริหารงานของสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี จําแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอแนะในการพัฒนาประสิทธิผลการบริหารงานของสํานักงาน พระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี
วิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Method Research) โดยเป็นการวิจัยเชิง ปริมาณ (Quantitative Research) ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงสํารวจ (Survey Research) กับกลุ่มตัวอย่างคือ พระสังฆาธิการในจังหวัดกาญจนบุรี จํานวน 231 รูป จากจํานวนทั้งหมด 544 รูป และการวิจัยเชิง คุณภาพ (Quantitative Research) ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก (The-Depth Interview)กับผู้ให้ข้อมูล สําคัญ (Key Informants) จํานวน 8 ท่าน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณนาความ
จากการวิจัยพบว่า
1) พระสังฆาธิการมีความเห็นต่อประสิทธิผลการบริหารงานของสํานักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดกาญจนบุรี โดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.70 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีระดับประสิทธิผลมากที่สุด คือ ด้านสถานที่ให้บริการ รองลงมา คือ ด้านการปฏิบัติงานของ บุคลากร และที่อยู่ในระดับสุดท้าย คือ ด้านการวางแผนงาน ซึ่งอยู่ในระดับมาก
2) การเปรียบเทียบประสิทธิผลการบริหารงานของสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด กาญจนบุรี โดยจําแนกตามข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า พระสังฆาธิการที่มี อายุ การศึกษาสามัญ การศึกษาแผนกธรรม และ การศึกษาแผนกบาลี ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อประสิทธิผลการบริหารงานของ สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี โดยรวม ไม่แตกต่างกัน ทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงไม่เป็นไป ตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ส่วนพระสังฆาธิการที่มี พรรษา และ ประสบการณ์ทํางาน ต่างกัน มีความคิดเห็น ต่อประสิทธิผลการบริหารงานของสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี โดยรวม แตกต่างกัน อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3) ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประสิทธิผลการบริหารงานของสํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด กาญจนบุรี พบว่า (1) ด้านการวางแผนงาน สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรีควรเข้ามาดูแลให้คําแนะนําทันทีเมื่อได้รับคําร้องขอ โดยไม่เลือกปฏิบัติ ควรเพิ่มเจ้าหน้าที่ให้เข้าไปศึกษาการทํางานของ คณะสงฆ์อย่างใกล้ชิด และควรมีการวางแผนประจําปีให้มากขึ้น และชี้แจงให้พระสงฆ์เข้าใจกว่าที่เป็นอยู่ (2) ด้านกระบวนการให้บริการ สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรีควรมีกระบวนการให้บริการที่ ว่องไว และสะดวกให้มากขึ้น ควรมีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้เร็วกว่าเดิมและเหลือเวลาพอที่คณะสงฆ์ จะเตรียมงานทัน และเจ้าหน้าที่ควรเพิ่มการลงพื้นที่ให้มากขึ้นเพื่อช่วยเหลืองานต่าง ๆ ของวัดตามอํานาจ หน้าที่ที่มีอย่างเต็มความสามารถ (3) ด้านการปฏิบัติงานของบุคลากร สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด กาญจนบุรีควรให้บุคลากรบริการอย่างเท่าเทียมกัน ควรเพิ่มเติมการจัดให้มีการอบรมเรื่องระเบียบการ ปฏิบัติตนต่อพระสงฆ์ให้มีความเข้าใจมากขึ้น และควรจัดให้มีการสัมมนาเพื่อเพิ่มศักยภาพในการ ปฏิบัติงาน (4) ด้านสถานที่ให้บริการ สํานักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรีควรได้รับการขยาย อาคารสถานที่ของสํานักงานเพื่อให้การทํางานมีความคล่องตัวและอํานวยความสะดวกได้มากขึ้น ควรจัด โต๊ะ เก้าอี้ไว้รองรับพระสงฆ์ที่เข้าไปติดต่อกิจธุระ และควรจัดให้มีพนักงานจัดการจอดรถให้มีระเบียบ
บทคัดย่อภาษาอังกฤษ
The objectives of this research were; 1) to study the administrative effectiveness of the Kanjanaburi Office of Buddhism, 2) to compare the administrative monks' opinions towards the administrative effectiveness of Knajanaburi Office of Buddhism classified by personal factors and 3) to study problems, obstacles and recommendations for the administrative effectiveness of Kanjanaburi Office of Buddhism
The methodology was the mixed method between quantitative and qualitative research. The quantitative research collected data from 231 samples derived from 544 populations. The qualitative research collected data from 8 key informants The-depth-interview and analyzed data by descriptive interpretation.
Findings were as follows:
1) The administrative monks' opinions about the administrative effectiveness of Kanjanaburi Office of Buddhism by overall were at high level with. Considering by each aspect was that the most effective aspect was the service facilities with , secondly the personnel's performance at and the last level was the planning at the average which was still at high level.
2) The comparison of the administrative effectiveness of the Kanjanaburi Office of Buddhism by the respondents' opinions were that the administrative monks with different age, formal education, Dhamma and Pali educational level did not have different opinions at the statistical significance at 0.05, denying the set hypothesis. The administrative monks with different ordained year and working experiences had different opinions about the administrative effectiveness of Knjanaburi Office of Buddhism,at the statistical significance at 0.05, accepting the set hypothesis
3) Recommendations for the administrative effectiveness of Kanjanburi Office of Buddhism were that (1) planning; the Kanjanburi Office of Buddhism responded to the requests promptly. There should be more personnel working with administrative monks closely, there should be more year plan and information for the monks, (2) the service process; the Kanjanaburi Office of Buddhism should have the prompt service process, more conveniently. Public relations should be prompt and continuous and allowing enough time for monks to prepare the activities. Officers of the Office of Buddhism should do more field works visiting locations to assist monks to do their work effectively according their responsibility, (3) Personnel performance; the Office of Buddhism should let the personnel to perform their duties equally, there should be additional training and seminar to upgrade the personnel to the high proficiency in performing their duties and (4) Service facility; The Kanjanaburi Office of Buddhism should be renovated and expanded for more space and more effective in duty performance. The should be chairs or seats for monks who came to contact the Office and attendants at the parking lot to keep the parking in order.
รายการไฟล์
ชื่อ | ไฟล์ | ขนาด | ประเภทไฟล์ | ดาวน์โหลด | วันที่ทำรายการ | |
---|---|---|---|---|---|---|
Full Text | Full Text.pdf | 4.38 MiB | 177 | 7 ส.ค. 2564 เวลา 05:12 น. | ดาวน์โหลด |