บทคัดย่อภาษาไทย

             วิทยานิพนธ์เรื่อง “ศึกษาเปรียบเทียบเรื่องปรมัตถสัจจะในพุทธปรัชญาเถรวาทกับอันติมสัจจะในปรัชญาเวทานตะ” มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาปรมัตถสัจจะในพุทธปรัชญาเถรวาท 2) เพื่อศึกษาอันติมสัจจะในปรัชญาเวทานตะ และ 3) เพื่อศึกษาเปรียบเทียบปรมัตถสัจจะในพุทธปรัชญาเถรวาทกับอันติมสัจจะในปรัชญาเวทานตะ โดยศึกษาจากพระไตรปิฎก คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนา เอกสารวิชาการและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการเชิงพรรณนา

             ผลการวิจัยพบว่า

             ปรมัตถสัจจะในพุทธปรัชญาเถรวาท หมายถึง ความจริงอันสูงสุด เป็นสภาพที่เป็นจริงของจิต เจตสิก รูป และนิพพาน ปรมัตถสัจจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ 1) ความจริงโดยสมมติ (สมมติสัจจะ) และ 2) ความจริงแท้ (ปรมัตถสัจจะ) ส่วนวิธีการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงปรมัตถสัจจะต้องปฏิบัติตามหลักศีล สมาธิ และปัญญา เรียกว่าหลักไตรสิกขา

             อันติมสัจจะในปรัชญาเวทานตะ หมายถึง พรหมัน เป็นความจริงสูงสุด ดำรงอยู่อย่างเป็นอมตะ อันติมสัจจะมี 2 ประเภท คือ 1) ปรพรหมัน และ 2) อปรพรหมัน วิธีปฏิบัติเพื่อเข้าถึงอันติมสัจจะต้องปฏิบัติตามหลักภักติโยคะ กรรมโยคะ และญาณโยคะ

              ความเหมือนและความแตกต่างของปรมัตถสัจจะในพุทธปรัชญาเถรวาทกับอันติมสัจจะในปรัชญาเวทานตะมี 3 ประเด็น กล่าวคือ 1) ความหมายของปรมัตถสัจจะในพุทธปรัชญาเถรวาทกับอันติมสัจจะในปรัชญาเวทานตะ มีความเหมือนกันกล่าวคือเป็นสภาพความจริงสูงสุด 2) ประเภทของปรมัตถสัจจะในพุทธปรัชญาเถรวาทกับอันติมสัจจะในปรัชญาเวทานตะ มีความเหมือนกันกล่าวคือความจริงสมมติกับความจริงแท้ขั้นปรมัตถ์ และ 3) วิธีการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความจริงสูงสุด มีความแตกต่างกันกล่าวคือพุทธปรัชญาเถรวาทชี้ว่าต้องปฏิบัติตามหลักไตรสิกขา ส่วนปรัชญาเวทานตะระบุว่าต้องปฏิบัติตามหลักโยคะ

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The thesis “A Comparative Study of the Paramatthasacca in Theravada Buddhist Philosophy and the Ultimate Reality in Vedanta Philosophy” is 1) to study the Paramatthasacca in Theravada Buddhist Philosophy, 2) to study the Ultimate Reality in Vedanta Philosophy and 3) to comparative study of the Paramatthasacca in Theravada Buddhist Philosophy and the Ultimate Reality in Vedanta Philosophy. Research method is to study the Tipitaka, Buddhist texts, academic documents and related researches. Data are analyzed by a descriptive method.

The research’s results found that;

The Paramatthasacca in Theravada Buddhist Philosophy meant the Ultimate Truth. It is real condition of mind citta, mental states cetasika, physical form rūpa and the Niravāna. There are 2 Ultimate Truths, namely; 1) conventional truth Sammatisacca and 2) ultimate Truth Paramatthasacca. The practical way to reach Ultimate Truth is to follow morality sīla, meditation (samadhi) and wisdom (paññā) called the Threefold Learning sikkhattāya

The Ultimate Reality in Vedanta Philosophy means Brahman. It is the Ultimate Truth and exists as eternal. There are 2 categories, namely; Parabrahman and Aparabrahman. The practical way to reach the Ultimate Reality is to follow the path of love (Bhakti Yoga), the path of work (Karma Yoga) and the path of knowledge (Jnana Yoga)

                 The Similarity and difference between the Ultimate Truth in Theravada Buddhist Philosophy and the Ultimate Reality in Vedanta Philosophy shows 3 points; 1) meaning of the Ultimate Truth in Theravada Buddhist Philosophy and the Ultimate Reality in Vedanta Philosophy is the same as the highest Reality, 2) category of the Ultimate Truth in Theravada Buddhist Philosophy and the Ultimate Reality in Vedanta Philosophy is the same as conventional Truth and the Ultimate Reality and 3) a practical way to reach the Ultimate Truth is different. Theravada Buddhist Philosophy shows that one should follow the Threefold Learning, on the other hand, the Vedanta Philosophy mentions that one should follow the basis of Yoga.

รายการไฟล์