บทคัดย่อภาษาไทย

         งานวิจัยเรื่อง “การจัดการศาสนสมบัติเชิงบูรณาการของวัดในเขต บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร” วัตถุประสงค์ดังนี้ เพื่อศึกษาการจัดการศาสนสมบัติเชิงบูรณาการของวัดใน เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร, เพื่อเปรียบเทียบการจัดการศาสนสมบัติเชิงบูรณาการของวัดใน เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร, เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกาจัดการศาสนสมบัติเชิงบูรณาการของวัดใน เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร

ศึกษาการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Method) โดยใช้ระเบียบการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ที่เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) โดยผู้วิจัยได้จัดกลุ่มข้อมูลตามสาระสำคัญของประเด็นการสัมภาษณ์ที่กำหนดไว้ (Data Grouping) จากนั้นจึงทำการวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท (Content Analysis Technique) และวิธีการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) เก็บแบบสอบถามประชากรพระสงฆ์ที่อาศัยอยู่ในในเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร จำนวน 96 รูป และเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยทำการ สัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ (Key Informants) จำนวน 7 คน/รูป

 ผลการวิจัยพบว่า

 การจัดการศาสนสมบัติเชิงบูรณาการของวัดในเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับจากค่ามากที่สุดไปหาน้อยที่สุด พบว่าด้านการจัดการศาสนสมบัติวัดตามข้อกฎหมายมีค่ามากที่สุด ( =4.368) รองลงมา คือ ด้านการดูแลวัดและศาสนสมบัติวัด ของผู้ปฏิบัติหน้าที่แทน ( =4.354) และน้อยที่สุด คือ ด้านการบริหารจัดการศาสนสมบัติของวัดที่มีพระสงฆ์ ( =4.308)

พระสงฆ์ที่มี อายุ พรรษามีความคิดเห็นต่อการจัดการศาสนสมบัติเชิงบูรณาการของวัดในเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ไม่แตกต่างกัน ส่วนพระสงฆ์ที่มี วุฒิการศึกษานักธรรม วุฒิการศึกษาสามัญ และการดำรงตำแหน่ง ความคิดเห็นต่อการจัดการศาสนสมบัติเชิงบูรณาการของวัดในเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05

             ปัญหาของการจัดการศาสนสมบัติเชิงบูรณาการของวัดในเขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ที่มากที่สุด คือ พระสงฆ์ในเขตพื้นที่และญาติโยมไม่ให้ความร่วมมือกัน รองลงมา คือ ทัศนคติทั้งพระสงฆ์และผู้เกี่ยวข้องไม่ตรงกัน และน้อยที่สุด กฎหมายเกี่ยวกับการจัดการศาสนสมบัติบางส่วนมียังไม่เข้าใจทำให้เกิดความผิดพลาด

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

                  The mixed method research on "The Integration-based Temple Property Management in Bang Kho Laem District, Bangkok" consisted of objectives to study and to compare the integration-based temple property management; also to investigate the problems, hindrances and recommendations about the integration-based temple property management in Bang Kho Laem District, Bangkok.

                        The mixed method combined a qualitative approach using in-depth interview conducted with 7 key informants for data collection and grouped the essence as in the interviewed issues. In analysis, the content analysis technique was employed. In quantitative approach, the questionnaire was conducted for data collection with 96 monks living in Bang Kho Laem District, Bangkok.

                   The results were:

              The integration-based temple property management in Bang Kho Laem District, Bangkok was by overview at high level. Considering each aspect, by descending values, it was found that the integration-based temple property management by law earned the highest value (= 4.368) followed by representative supervision of the temple and its property (= 4.354). The least value was the temple property management by monks (= 4.308).

                 Monks with different ages and tenures had no different opinions whereas monks with different education degrees, Pāli level, general studies degrees and position had different opinions about the integration-based temple property management in Bang Kho Laem District, Bangkok by statistically significant difference at 0.05 level.

                 The worst problem in the integration-based temple property management in Bang Kho Laem District, Bangkok was the local monks and the local people did not cooperate followed by the different attitudes among the monks and people involved. The least problem was the laws about some parts of the temple property management where there led to misunderstanding and created errors.

รายการไฟล์