บทคัดย่อภาษาไทย

การวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาเด็กปฐมวัยที่สอดคล้องกับนโยบายการปฏิรูปการศึกษาของชาติ 2. เพื่อเสนอแนวทางพัฒนาเด็กปฐมวัยตามนโยบายปฏิรูปการศึกษาในโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามความคิดผู้บริหารและครูเกี่ยวกับแนวทางพัฒนาเด็กปฐมวัยตามนโยบายปฏิรูปการศึกษาในโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนาโดยใช้กลุ่มตัวอย่างผู้บริหารและครูโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนาจำนวน 120 รูป/คน และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติหาค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการวิจัย

1. ผู้บริหารและครูมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันการพัฒนาเด็กปฐมวัยตามนโยบายปฏิรูปการศึกษาในโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา โดยภาพรวมทุกๆ ด้าน      อยู่ในระดับมาก ได้แก่ พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจเด็กปฐมวัย พัฒนาการด้านสังคมเด็กปฐมวัย พัฒนาการด้านร่างกายเด็กปฐมวัยแลพัฒนาการด้านสติปัญญาเด็กปฐมวัย ตามลำดับ

2. แนวทางพัฒนาเด็กปฐมวัยตามนโยบายปฏิรูปการศึกษาในโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีดังนี้

2.1 พัฒนาการด้านร่างกาย ควรมีการพัฒนาด้านร่างกายอย่างต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ และจัดหารอาหารให้เด็กได้รับประทานอาหารครบ 5 ทั้งหมู่

2.2 พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ควรจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ผ่านศิลปะ ดนตรี การร้องเพลงเพื่อการเคลื่อนไหวอารมณ์ตามจังหวัดเพลง และส่งเสริมให้เด็ดรู้จักคิด วิเคราะห์ ด้วยกิจกรรมการทำสมาธิ ตามความเหมาะสม

2.3 พัฒนาการด้านสังคม ควรส่งเสริมพัฒนากิจกรรมประจำวัน เช่น การรู้จักรักษาความสะอาด เพื่อฝึกให้เป็นนิสัยในตนเอง เวลาเข้าแถว ฝึกมารยาท พูดวาจาที่สุขภาพ

2.4 พัฒนาการด้านสติปัญญา ควรนำเข้าสู่บทเรียนโดยผ่านกิจกรรมกลุ่ม และแนะนำวิธีการเล่นกับเพื่อนอย่างมีมารยาท ฝึกการอ่านตามความเหมาะสมกับเด็กเพื่อพัฒนาสติปัญญา เช่น การอ่านภาษาอังกฤษ ฝึกการพูดประโยคสั้นๆ

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The objectives of this research were to study the opinions on early childhood development in accordance with education reform policy and to propose a guideline of early childhood development in accordance with education reform policy in charity schools of the temples in Bangkok and its vicinity. The data were collected by questionnaires from 120 samples consisting of administrators and teachers in charity schools of the temples in Buddhism, and then analyzed by percentage, mean and standard deviation.

The results of the study found that

1. The opinion towards the current state of early childhood development in accordance with education reform policy in charity schools of the temples in Buddhism was at a high level overall. The highest level was on emotional development, followed by social development, physical development, and intellectual development respectively.

2. The guidelines of early childhood development in accordance with education reform policy in charity schools of the temples in Buddhism in Bangkok and its vicinity were as follows:

2.1 Physical development; physical development should be done continuously and regularly, and the children should be provided with five groups of food.

2.2 Emotional development; emotional activities through arts, music, songs, movement, thinking, analyzing, and concentrating should be arranged for children appropriately.

2.3 Social development; daily activities, such as cleanliness, tidiness, standing in line, self-control and verbal expressions should be implemented for training the children.

2.4 Intellectual development; the children should be developed by group activity, playing, reading and saying short sentences

รายการไฟล์