บทคัดย่อภาษาไทย

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ (1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของ ประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม (2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการ บริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม และ (3) เพื่อศึกษา ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการบริหารงานตาม หลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ ประชาชนจํานวน 365คน ที่อาศัยอยู่ในเขตองค์การ บริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ซึ่งใช้การสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามการเกี่ยวกับ การบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นแบบสอบถามแบบเลือกตอบ แบบมาตราส่วนประเมินค่า และแบบสอบถามปลายเปิด วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสําเร็จรูปเพื่อการวิจัย ทางสังคมศาสตร์ สถิติที่ใช้ คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที (t-test) และค่า(F-test) โดยใช้การวิเคราะห์ความ แปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 56.44 มีอายุ 41-50 ปี คิดเป็นร้อยละ 30.41 มีสถานภาพแต่งงาน คิดเป็นร้อยละ 71.23 มีอาชีพ เกษตรกรรม คิดเป็นร้อยละ 75.07มีวุฒิการศึกษาต่ํากว่าปริญญาตรี คิดเป็นร้อยละ 75.34

2. ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของ องค์การบริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม โดยรวมอยู่ในระดับ ปานกลางเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน

3. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการบริหารงานตาม หลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม จําแนกตาม เพศ อาย สถานภาพ อาชีพ วุฒิการศึกษา พบว่าประชาชนมีความคิดเห็น ต่อการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลขององค์การบริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนมโดยรวม ไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ เมื่อจําแนกตามอายุ พบว่า ประชาชนมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสําคัญที่สถิติที่ 0.05

4. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของ องค์การบริหารส่วนตําบลโคกหินแฮ่ อําเภอเรณนคร จังหวัดนครพนม พบว่า บุคลากรบางส่วน ยังไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายหรือข้อบัญญัติต่างๆได้อย่างเคร่งครัด เกี่ยวกับการ บริหารงานในแต่ละส่วนขององค์การบริหารส่วนตําบล บุคคลากรบางส่วนในการปฏิบัติหน้าที่ เห็นประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้องมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม บุคลากรบางส่วนปฏิบัติหน้าที่ ตามความต้องการของตนเองโดยไม่คํานึงถึงผลงานต่อชุมชน การบริหารงานขององค์การ บริหารส่วนตําบลในบางเรื่องไม่มีความโปร่งใสในเรื่องงบประมาณที่ใช้พัฒนาท้องถิ่น การจัดสรรงบประมาณไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ในเขตการปกครอง

สําหรับข้อเสนอแนะในการบริหาร คือ องค์การบริหารส่วนตําบล ควรจัดอบรม บุคลากรบางส่วนที่ยังไม่ทราบในข้อกฎหมายหรือหลักธรรมาภิบาล ต่างๆเกี่ยวกับการ บริหารงานขององค์การบริหารส่วนตําบล เพื่อให้การบริหารงานขององค์การบริหารส่วนตําบล ไปในทิศทางเดียวกันคือ ยึดหลักความถูกต้องตามกฎหมาย และหลักเกณฑ์ที่ชอบธรรม องค์การบริหารส่วนตําบลควรสร้างทัศนคติด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้เกิดขึ้นแก่บุคลากร ส่งเสริมให้บุคลากรเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตน เสริมสร้างความสามัคคี ให้เกิดขึ้นแก่บุคลากรขององค์การบริหารส่วนตําบล ควรเปิดเผยงบประมาณประจําปีในการ นําไปใช้จ่ายในแต่ละด้าน และในการนํางบประมาณไปใช้นั้นให้มีความคุ้มค่าและมีประโยชน์กับ ประชาชน และการจัดสรรงบประมาณไปพัฒนาชุมชนให้ทั่วถึงตามความเร่งด่วนของชุมชนนั้นๆ โดยไม่คํานึงถึงคะแนนเสียงในการเลือกตั้ง

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

               This objective of this research are : (1) to study the opinions of people towards the Administration of the Sub-district Administrative Organization According to Good Governance : A Case Study of Khokhinhae Sub-district, Renunakhon District,Nakhonphanom Province, (2) to compare the opinions of people towards Administration of the Sub-district Administrative Organization According to Good Governance : A Case Study of Khokhinhae Sub-district, Renunakhon District, Nakhonphanom Province, and (3) to study the problems and suggestions for the development of the Administration of the Sub-district Administrative Organization According to Good Governance : A Case Study of Khokhinhae Sub-district, Renunakhon District, Nakhonphanom Province. The survey research was carried out in this study. The sample includes 365 people within Khokhinhae Sub-distict, Renunakhon District, Nakhonphanom Province being draw by Cluster sampling technique. The tool used to collect data was questionnaire. The statistics used were frequency, percentage, mean and standard deviation.The hypotheses were tested by t-test and F-test was used for one-way analysis of variance (ANOVA)
The findings of this research are as follows:
             1) Most of respondents was male, representing 56.44 percent, aged 41-50 years representing 30.31 percent, were married, 71.23 percent, agriculture representing 75.07 percent, and Most of them are employees who are undergraduate, 75.34 percent.
           2) The overall opinions of people towards the Administration of the Subdistrict Administrative Organization According to Good Governance : A Case Study of Khokhinhae Sub-district, Renunakhon District, Nakhonphanom Province was found at the medium level. When considering into each aspect of good governance, it was also ranked at the medium levels in all aspects.
               3) From the comparative study of the opinion held by the administrators,the officers and the employees towards the Sub-district Administrative Organization according to the Principle of Good Government, classified by personal factors were the people have sex,age,status,occupation,education, it is found that the administrators, the officers and the employees in the Administration of the Sub-district Administrative Organization According to Good Governance : A Case Study of Khokhinhae Sub-district, Renunakhon District, Nakhonphanom Province are in general not different, the face which is not contrary to the set up hypothesis. When divide by age,found that the opinion are different at 0.05 level.
              4) For the problems and obstacles, it is found that some personnel do not know the laws or the Principles of Good Governance, regarding the administration in each Sub-district Administrative Organization. Some personnel are interested only in personal benefit more than general one. Moreover some personnel are interested in their own friends. In working of some organization in some matters, there is not opening of the opportunity to the local people to work together. Some personnel do their work in accordance with their own sense without thinking of the outputs. The provision of budget by the Sub-district Administrative Organization does not cover the areas in the District Administration.
               For the suggestion are as follows: The Sub-district Administrative Organization should arrange the training course to the some personnel who do not know the laws or the Principle of Good Governance regarding the administrator to course the administration in the Sub-district Administrative Organization to be in the some direction. That is to emphasize the right way to the laws and the Principle of Good Governance.The Sub-district Administrative Organization should support the personnel to see the common benefit more than the personnel one. The Sub-district Administrative Organization should support the harmony to the personnel. Moreover,the Sub-district Administrative Organization should shows the annual budget to be spent on each side and should spend the annual budget usefully and properly to the people,and should bring the annual budget for broadly developing the communities according the community is need without thinking of the vote from the election.

รายการไฟล์