บทคัดย่อภาษาไทย

          บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาบริบท “บวร” ประวัติและพัฒนาการของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวาย 2) เพื่อศึกษาคุณค่าและความสำคัญของบวรต่อการพัฒนาศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวาย  อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศระเกษ 3) เพื่อวิเคราะห์บทบาทของบวรต่อการพัฒนาศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศระเกษ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการศึกษาเอกสารและการวิจัยเชิงทดลอง มีการสัมภาษณ์เชิงลึกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ กลุ่มพระสงฆ์ และกลุ่มผู้นำชุมชนและผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 17 ท่าน วิเคราะห์และนำเสนอผลวิจัยเชิงพรรณนา

          ผลการวิจัยพบว่า

          1. บริบท “บวร” ประวัติและพัฒนาการของศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวาย พบว่า สภาพพื้นที่ทั่วไป ตําบลสวาย มี 10 หมู่บ้าน มีประชากรทั้งสิ้น 4,076 คน ต่างชาติพันธุ์ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวาย เริ่มตั้งแต่ พ.ศ.2563 วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความสามัคคีในชุมชน จัดให้มีประชาชนมีส่วนร่วมกับศูนย์ไกล่เกลี่ย โดยการมีวัด บ้าน โรงเรียน พัฒนาการศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวาย 

          2. คุณค่าและความสำคัญของบวรต่อการพัฒนาศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวาย  พบว่าความสำคัญของบวร คือ วัด บ้าน โรงเรียน สร้างความสงบสุขให้กับสังคมอยู่ร่วมกันได้นอกจากบ้านวัดโรงเรียนสร้างคนแล้ว คนที่เติบโตทางความคิดจิตวิญญาณ จึงต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบในการพัฒนาและแก้ไขปรับปรุง “บวร” ให้พัฒนาสอดคล้องไปกับสังคมด้วยสุภาษิตที่คนรุ่นเก่าแก่ เคยได้เห็นได้ฟังกัน “ วัดจะดีมีหลักฐานเพราะบ้านช่วย บ้านจะสวยเพราะมีวัดดัดนิสัย บ้านกับวัดผลัดกันช่วยก็อวยชัย ถ้าขัดกันก็บรรลัยทั้งสองทาง ”บ้านวัดโรงเรียน จุดเปลี่ยนตัวเอง ครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศ เพราะว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเชื่อพระและครู ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ที่มีการพัฒนาศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทประชาชนตำบลสวาย

          3. วิเคราะห์บทบาทช่วยเหลือการพัฒนาศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวาย  พบว่า สร้างความสามัคคีในชุมชน ช่วยเหลือการพัฒนาศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชนตำบลสวายเป็นอย่างดี  สามารถช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆ ได้แก่  ความขัดแย้งด้านข้อเท็จจริง หรือข้อมูล  ความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ หรือความต้องการ  ความขัดแย้งด้านความสัมพันธ์  ความขัดแย้งด้านคุณค่า หรือค่านิยม และความขัดแย้งด้านโครงสร้าง โดยมีการการบูรณาการพุทธสันติวิธีเพื่อพัฒนารูปแบบการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทภาคประชาชน  แต่ก็ยังมีปัญหาและอุปสรรค  คือประชาชนในชุมชนตำบลสวาย ส่วนใหญ่ยังเห็นว่าในการจัดการกับปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในชุมชนควรใช้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทโดยภาคประชาชนกันเองเป็นสำคัญ

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The study consisted of the following objectives: 1) to study the context of “villages, temples, and schools” including the history and development of the public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict; 2) to study the value and importance of villages, temples, and schools towards the development of public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict, Prangku district, Sisaket province; and 3) to analyze the role of villages, temples, and schools towards the development of public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict, Prangku district, Sisaket province. The study applied a qualitative research approach by studying documents and experimental research. The data was collected through in-depth interviews with key informants who were a group of monks, a group of community leaders, and experts, in a total of 17 persons. The obtained data were analyzed and presented by way of descriptive method.

          The results of the study are found as follows:

          1) From studying the context of “villages, temples, and schools” including the history and development of the public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict, it is found that Sawai subdistrict consists of 10 villages with 4,076 population. The public sector dispute mediation center has been run since year B.E. 2563 with the objective to build unity in the communities. There has been an arrangement for people to take part in the public sector dispute mediation center with villages, temples, and schools to develop the public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict.

          2) From studying the value and importance of villages, temples, and schools towards the development of public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict, it is found that the importance of villages, temples, and schools is to build peace for the society where people can coexist. Not only villages, temples, and schools build people, in return, people who grow spiritually also have duties and responsibilities to develop and improve villages, temples, and schools conforming to the society, as the old proverb, “The temple is well-established with the laymen's help; The community is orderly with the monks' discipline. Both take turns helping each other. If the two are in conflict, both will go to ruin”. Villages, temples, and schools are the turning point for oneself, families, communities, society, and the country because most people believe in monks and teachers. The development of public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict is considered a good thing.

      3) From analyzing the assistances from the development of public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict, it is found that the following: building unity in the community; able to help the development of public sector dispute mediation center in Sawai subdistrict; able to prevent and resolve various conflicts such as fact conflict, conflict of interest, relationship conflict, value conflict, and structural conflict. This can be done by integrating the Buddhist peaceful means for developing a model of public sector dispute mediation. The problems and obstacles found are that most of the people in Sawai subdistrict view that to deal with conflicts occurring in the community, they are used to negotiating and mediating by themselves.

รายการไฟล์