บทคัดย่อภาษาไทย

               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษา การใช้หลักมนุษยสัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรงแรงงาน 2) เพื่อเปรียบเทียบการใช้หลักมนุษยสัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) เพื่อศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะแนวทางของการใช้หลักมนุษยสัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ บุคลากรสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน อันได้แก่ ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราว ลูกจ้างเหมาที่ปฏิบัติงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน จำนวน 200 คน แบบสอบถามที่ใช้การวิจัยมีการหาคุณภาพ โดยการหาความเที่ยงตรงของเนื้อหา (Content Validity ) จากผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 ท่าน และมีค่าความเชื่อมั่น (Reliability) เท่ากับ 0.964 วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ใช้สถิติทดสอบสมมติฐานโดยใช้การทดสอบค่าที (t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One Way ANOVA) ผลการวิจัยพบว่า ระดับความคิดเห็นของบุคลากรต่อการใช้หลักมนุษยสัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน พบว่า บุคลากรในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน มีความคิดเห็นว่า การใช้หลักมนุษยสัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน โดยภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง( x̄ = 3.25) และเมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน

              ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของบุคลาการต่อการใช้หลักมนุษย์สัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า บุคลากรที่มีเพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพ และประสบการณ์การทำงาน ต่างกัน มีความคิดเห็นในการใช้หลักมนุษยสัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน โดยรวมไม่แตกต่างกัน จึงปฎิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้

             ปัญหาเกี่ยวกับการใช้หลักมนุษยสัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน พบว่า บางครั้งการทำงานมีปัญหา จะได้รับคำปรึกษาน้อย และการทำงานเกิดความผิดพลาดมักจะถูกตำหนิ มากกว่าการให้คำแนะนำ นอกจากนี้บุคลากรบางคน พูดจาทักทายด้วยน้ำเสียงดูเหมือนไม่จริงใจเท่าที่ควร รวมถึงการทำงานที่รู้สึกเครียดหรือสับสน ทำให้มีการอธิบายข้อมูลข่าวสารที่ไม่ค่อยสุภาพ ความผูกพันน้อยและความเอาใจใส่ ยังมีอยู่บ้างบางครั้งยังยึดติดกับตัวบุคคลมากเกินไป ยังมีมาตรฐานที่ไม่แน่นอน มีการมุ่งมั่นต่อการทำงานมากเกินไป โดยไม่ได้คำนึงถึงขอบเขตของกฎระเบียบในการทำงาน นอกจากนี้การทำงานบางอย่าง มีอุปกรณ์ เทคโนโลยีที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าที่ควร

              ส่วนข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้หลักมนุษย์สัมพันธ์เชิงพุทธในสำนักงานปลัดกระทรวงแรงงาน พบว่า ควรให้ความช่วยเหลือแก่เพื่อนร่วมงานที่เดือดร้อน ด้วยคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ มีการให้อภัยอยู่เสมอ เมื่อเกิดความผิดพลาดในการทำงานร่วมกัน มีความเป็นกัลยาณมิตร พูดจาทักทายด้วบน้ำเสียงที่จริงใจ พูดอธิบายข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ด้วยความสุภาพ ถึงแม้จะประสบกับภาวะเครียด หรือสับสน รวมถึงความสัมพันธ์ ให้เป็นอันหนึงอันเดียวกันต้องไม่ยึดติดกับบุคคล หรืองานนั้น แต่ควรคำนึงถึง ผลประโยชน์ขององค์การเป็นหลัก มีบรรทัดฐาน หรือกฎเกณฑ์ ที่ทุกคนยอมรับ และส่งเสริมให้ทุกคนปฏิบัติตาม ทำงานโดยยึดหลักกฎระเบียบ มากกว่ายึดติดกับผลของงาน และการมีคุณธรรมประจำใจในการปฏิบัติงาน รวมถึงสนับสนุนให้มีการแนะนำเทคโนโลยีและอุปกรร์ที่เหมาะสมมาใช้ในการดำเนินงาน

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

              The purpose of this research are 1) to study the use of Buddhist principles in human relations, Ministry of Labour and 2) to compare the opinions of people on the Buddhist principle of human relations, Ministry of Labour. Classified by personal factors, and 3) to study the problem. And offers guidelines for the use of Buddhist principles in human relations, Ministry of Labour. The sample used in this study was personnel, Ministry of Labour officials, including government employees, temporary workers permanent employees. Employee contract and working under the Ministry of Labour of 400 questionnaires used in research to find quality Determination of the accuracy of the content (Content Validity) experts, 5, and reliability. (Reliability) equal to 0.964 by analysis of frequency, percentage, mean, standard deviation (SD) statistical hypothesis testing using t test (t-test) and one-way analysis of variance (One Way ANOVA.)

            The findings of this study are concluded as follows :

            Level reviews of Buddhist principles in human relations, Ministry of Labour found that the personnel in the Ministry of Labour. The sample Opinion that Buddhist principle of human relations in the Ministry of Labour as a whole at a moderate level. In view of each side were at a moderate level on all sides.

             Comparison of attitudes towards the use of Buddhist principles in human relations, Ministry of Labour. Classified by personal factors that people with gender, age, education, marital status and experience of different opinions in the Buddhist principle of human relations, Ministry of Labour. Overall no difference. Therefore reject the hypothesis.

              Problems with the use of Buddhist principles in human relations, Ministry of Labour found that there is a problem sometimes works. Are being consulted more. And operation errors are often blamed. More advice. Nor check some ethnic people. Speak with the voice greetings seem sincere enough. Including work that feels tense or confused. Result in a less polite description information. Commitment and care less. There is sometimes work to adhere to the party too. The standard uncertainty. Are committed to working too much. Without regard to the scope of regulation to work. In addition, some operations TECHNOLOGY bad enough.

             The recommendations about the use of Buddhist principles in human relations, Ministry of Labour found that it should provide assistance to troubled colleagues. With helpful advice. There is always forgiveness. When an error in the collaboration. There is a good friend Speak with the voice greetings and genuine. Speaking describe various information with courtesy. Despite experiencing stress or confusion as well as build the unity and should not be attached to a person or task, but keep in mind. Interests of the organization is primarily a norm or rule that everyone recognized. And encourage everyone to follow. Work based on rules rather than adhere to the workpiece And the moral heart of the operation. As well as to promote appropriate technologies and equipment used in the operation.

รายการไฟล์