บทคัดย่อภาษาไทย

             สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1.เพื่อศึกษาระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถจังหวัดลำพูน 2.เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างหลักอิทธิบาทธรรมกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถจังหวัดลำพูน 3.เพื่อเสนอแนวทางการประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถจังหวัดลำพูนการศึกษาวิจัยครั้งนี้ ดำเนินการตามระเบียบวิจัยแบบผสานวิธี คือเชิงปริมาณ ซึ่งใช้วิธีวิจัยเชิงสำรวจ การแจกแบบสอบถาม ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ บุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน จำนวน 49 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานและวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างหลักอิทธิบาทธรรมกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน ทำการวิเคราะห์ด้วยการหาค่าความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร ว่ามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันหรือไม่ โดยใช้วิธีการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 10 รูปหรือคน และใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหา

                      ผลการวิจัยพบว่า

                  1. ระดับประสิทธิภาพปฏิบัติงานของบุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน ตามหลักอิทธิบาทธรรมโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (µ = 4.45 σ = 0.44) ประสิทธิภาพปฏิบัติงานของบุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูนตามหลักประสิทธิภาพโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (µ = 4.17 σ = 0.40)

                  2. ผลการทดสอบสมมติฐานพบว่า หลักอิทธิบาทธรรมมีความสัมพันธ์กับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน ในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยมีระดับความสัมพันธ์ค่อนข้างสูง กล่าวคือ เมื่อบุคลากรศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา บรมราชินีนาถ จังหวัดลำพูน นำหลักอิทธิบาทธรรมมาใช้ในการปฏิบัติงาน ก็จะส่งผลให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

                   3. แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลกร พบว่า 1) ด้านฉันทะ (ความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน) ควรบริหารทรัพยากรบุคคลให้เหมาะสมกับตำแหน่ง ความรู้ ความสามารถ  และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากร 2) ด้านวิริยะ (ความเพียรพยายามในการปฏิบัติงาน) ควรจัดทำแผนการปฏิบัติงาน แผนใช้จ่ายงบประมาณประจำปี และหมั่นประชุมเพื่อติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานอยู่เสมอ 3) ด้านจิตตะ (ความเอาใจใส่) เปิดโอกาสให้บุคลากรได้แสดงความคิดเห็น สร้างกระบวนการคิด วิเคราะห์และสามารถนำไปปฏิบัติได้ 4) ด้านวิมังสา  (การพิจารณาไตร่ตรองโดยใช้สติปัญญา) ส่งเสริมการปฏิบัติงานตามหลัก PDCA และการจัดการ   องค์ความรู้ (KM)

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

             The objectives of this research were 1) to study the performance level of personnel of the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province, 2) to study the relationship between Iddhipada (Path of Accomplishment) and the performance of personnel of the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province, and 3) to propose guidelines for applying Buddhist principle to enhance the performance of personnel the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province.

            This was quantitative research by using integrated methodology: survey research method and questionnaires. The population used in the research were forty-nine personnel of the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province. The data was analyzed by finding the frequency, percentage, mean, standard deviation, and the relationship between the principle of influence and the performance of personnel of the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province. The analysis was performed by estimating the relationship between the variables whether there was a relationship. Pearson’s correlation coefficient method and qualitative research were used by using in-depth interviews with ten key informants and as well as a content analysis technique.

               The findings were as follows:

           1. The performance level of personnel of the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province according to Iddhipada (Path of Accomplishment) was at the highest level (µ = 4.45 σ = 0.44). The performance level of personnel of the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province according to the principle of overall efficiency was at a high level (µ = 4.17 σ = 0.40).

            2. The hypothesis testing results showed that the principle of Iddhipada (Path of Accomplishment) was positively correlated with the performance of personnel of the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province with a statistically significant positive at 0.01 level, with a higher level of correlation.  When personnel of the Women and Family Development Learning Center in Honor of the 72^nd Birthday Anniversary of Her Majesty Queen Sirikit in Lamphun Province applied the principle of Iddhipada (Path of Accomplishment) in their work, their performance was higher.

           3. There were four guidelines for improving the efficiency of personnel’s performance. The first guideline was operational satisfaction. Human resource management should be appropriate to the position, knowledge, ability and morale of the personnel. The second guideline was persistence or effort in performing tasks. They should prepare an action plan, annual budget expenditure plan, and regularly meet to monitor and evaluate performance. The third guideline was caring. The organization should allow personnel to express their opinions, create thinking and analyzing process which can be put into practice. The fourth guideline was reflection. The organization should promote the implementation of PDCA principles and knowledge management (KM).

รายการไฟล์