โทรศัพท์: 035-248000 ต่อ 8176 | อีเมล: [email protected]

  • ชื่อเรื่องภาษาไทย
    การประยุกต์หลักพุทธธรรมเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ทำการปกครองในจังหวัดปทุมธานี
  • ชื่อเรื่องภาษาอังกฤษBuddhadhamma Application for Enhancing Administrative Personnel’s Work Performance Efficiency in Pathum Thani Province
  • ผู้วิจัยพระครูวรธรรมวาที (นิพนธ์ ฉนฺทวุฑฺโฒ)
  • ที่ปรึกษา 1รศ. ดร.สมาน งามสนิท
  • ที่ปรึกษา 2รศ. ดร. เกียรติศักดิ์ สุขเหลือง
  • วันสำเร็จการศึกษา19/10/2022
  • ส่วนงานจัดการศึกษา:
  • ชื่อปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.)
  • ระดับปริญญาปริญญาเอก
  • สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์
  • URI http://e-thesis.iteam.co.th/thesis/48944
  • ปรากฏในหมวดหมู่ดุษฎีนิพนธ์
  • ดาวน์โหลด 0
  • จำนวนผู้เข้าชม 332

บทคัดย่อภาษาไทย

การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อศึกษาประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร ที่ทำการปกครองในจังหวัดปทุมธานี 2. เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน    ของบุคลากรที่ทำการปกครองในจังหวัดปทุมธานี 3. เพื่อนำเสนอรูปแบบในการประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรม         ในการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ทำการปกครองในจังหวัดปทุมธานี เป็นการดำเนินการระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี เป็นวิจัยเชิงปริมาณ โดยเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มประชากร 183 คน ใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา และวิจัยเชิงคุณภาพ เป็นการศึกษาจากเอกสาร แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และภาคสนามด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 18 รูปหรือคน และมีการสนทนากลุ่มเฉพาะ จำนวน 10 คน เพื่อยืนยันรูปแบบหลังจากการสังเคราะห์ข้อมูล

ผลการวิจัยพบว่า                                                                                    .
         
     1. หลักพุทธธรรมส่งผลต่อการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ทำการปกครองในจังหวัดปทุมธานี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.11 แต่ละด้านอยู่ระดับมากทุกด้าน ได้แก่ ด้านเมตตากายกรรม ช่วยเหลือกิจธุระของผู้ร่วมคณะด้วยความเต็มใจ ด้านทิฏฐิสามัญญตา มีทิฎฐิงามเสมอกันกับเพื่อนร่วมงาน ด้านสีลสามัญญตา มีศีลบริสุทธิ์เสมอกันกับเพื่อนร่วมงาน ด้านเมตตามโนกรรม ตั้งจิตปรารถนาดี คิดทำสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่กัน และสาธารณโภคี การแบ่งปันผลประโยชน์ตามลำดับ สำหรับผลการวิจัยเชิงคุณภาพเห็นพ้องต้องกันกับการวิจัยเชิงปริมาณเห็นว่าหลักสาราณียธรรมซึ่งเป็นธรรมสำหรับอยู่ร่วมกัน ทำงานร่วมกัน เมื่อประยุกต์กับการทำงาน ก่อให้เกิดสามัคคีธรรม ทำงานเป็นทีมมุ่งผลสำฤทธิ์ขององค์กรเป็นที่ตั้ง

2. ปัจจัยที่ส่งผลต่อการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ทำการปกครอง    ในจังหวัดปทุมธานี พบว่ามี 2 ปัจจัย คือ 1) ปัจจัยด้านสมรรถนะ โดยมีภาพรวมอยู่ในระดับมากมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.01  แต่ละด้านได้แก่ การสั่งสมความเชี่ยวชาญในอาชีพ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ ด้านการบริการที่ดี และด้านการยึดมั่นในความถูกต้องและชอบธรรม ตามลำดับ 2) ปัจจัยด้านแรงจูงใจให้ปฏิบัติงาน โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.12 แต่ละด้านได้แก่ เงินเดือน การมีโอกาสก้าวหน้า การได้รับการพัฒนา ความรับผิดชอบ การควบคุมบังคับบัญชา ความสำเร็จของงาน ความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น การได้รับการยกย่องชมเชย ลักษณะของงาน นโยบายการบริหาร และ สภาพการทำงาน ตามลำดับ สำหรับผลการวิจัยเชิงคุณภาพ พบว่า ปัจจัย 2 ด้านนี้คือปัจจัยด้านสมรรถนะและปัจจัยด้านแรงจูงใจ มีผลต่อการปฏิบัติงานของบุคคลากรที่ทำการปกครองในจังหวัดปทุมธานีในระดับสูง

3. รูปแบบในการประยุกต์ใช้หลักพุทธธรรมในการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ทำการปกครองในจังหวัดปทุมธานี ได้แก่ 1) นำหลักสาราณียธรรม 6 คือธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความระลึกถึง คือ (1) ด้านเมตตากายกรรม ช่วยเหลือกิจธุระของผู้ร่วมคณะด้วยความเต็มใจ (2) ด้านเมตตาวจีกรรม ช่วยบอกแจ้งสิ่งที่เป็นประโยชน์ สั่งสอน แนะนำ  (3) ด้านเมตตามโนกรรมตั้งจิตปรารถนาดี คิดทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์แก่กัน (4) ด้านสาธารณโภคี ได้ของสิ่งใดมาก็แบ่งปัน (5) ด้านสีลสามัญญตา มีศีลบริสุทธิ์เสมอกันกับเพื่อนพรหมจรรย์ทั้งหลาย (6) ด้านทิฏฐิสามัญญตา มีความคิดเห็นเสมอกันกับเพื่อนร่วมงานทั้งหลาย และนำแรงจูงใจในการทำงาน คือ (1) ด้านเงินเดือน (2) สภาพการทำงาน (3) ด้านความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น (4) การควบคุมการบังคับบัญชา (5) นโยบายการบริหารงาน (6) ความสำเร็จของงาน (7) การได้รับการยกย่องชมเชย (8) ลักษณะของงาน (9) ความรับผิดชอบ (10) การมีโอกาสก้าวหน้า (11) การได้รับการพัฒนา สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพพบว่า เมื่อประยุกต์หลักสาราณียธรรม เข้ากับปัจจัย 2 ตัวคือ สมรรถนะและแรงจูงใจ จะก่อให้เกิดการส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากรที่ทำการปกครองในจังหวัดปทุมธานี ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในด้านต้นทุนการผลิต ด้านกระบวนการบริหาร และด้านผลลัพธ์ ตลอดไป

 

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

     Objectives of this dissertation were: 1. To study the efficiency of work performance of the administrative personnel in Pathum Thani Province, 2. To study the factors affecting the efficiency of work performance of the administrative personnel in Pathum Thani Province and 3. To propose the model of Buddhadhamma application for enhancing the administrative personnel’s work performance efficiency in Pathum Thani Province., conducted by the mixed research methods. The quantitative research, data were collected from 183 samples with questionnaires and analyzed by the descriptive statistics. The qualitative research, data were collected from 18 key informants by face-to-face in-depth-interviewing and from 9 participants in focus group discussion, analyzed by descriptive interpretation.

               Findings were as follow:  

               1. Buddha-dhamma that affected the work performance efficiency of administrative personnel in Pathum Thani Province, by overall were at high level with the mean value at 4.11. All aspects were at high level as follows: Mettăkăyakamma, helping co-workers willingly, Ditthisămannată, to hold right views with co-workers, Silasămannată, to keep the rules of conduct along with work fellows, Mettănamokamma, well wishing for each other, and Sădhăranabhogi to share any lawful gains with co-workers respectively. Findings from the qualitative research indicated that Saraniyandhamma that is the principle for co-existence, when applied to co-working resulted in harmonious working that aimed for success of organization.

2. Factors affecting the work performance efficiency of the administrative personnel in Pathum Thani Province were found that: 1) capacity was at high level with the mean value at 4.01. Each aspect was also at high level as follows: career skill accumulation achievement aiming, good service, adhering to the righteousness and justice. 2) The aspect of motivation, by overall was at high level with the mean value at 4.12 Each aspect was also at high level, namely, salary, the opportunity to advance, development, responsibility, controlling, work achievement, relations with others, admiration, work characteristics, administrative policy, and working conditions respectively. Findings from the qualitative research indicated that two factors, efficiency and motivation had good effects on the work performance efficiency of the administrative personnel in Pathum Thani at high level.                      

               3.   A model of Buddhadhamma application for enhancing the work performance efficacy of the administrative personnel in Pathum Thani Province was to apply the Sărăniyadhamma 6, virtues for fraternal living as follows; 1) helping co-workers business, willingly, 2) helping with kind words, useful instruction and advices, 3) well-wishing for each other, 4) to share any lawful gains with co-workers 5) to keep the rules of conduct along with work fellows, 6) right views with co-workers, and Motivations, namely, 1)  salary,2) working condition, 3) human relations, 4) controlling, 5) working policy, 6) work achievement, 7) admiration, 8) work characteristics, 9) responsibility, 10) opportunity to advancement, 11) opportunity to be developed.These 2 factors and Saraniyadhamma enhanced the administrative personnel’s work performance efficiency in Pathum Thani Province for more sustainable efficiency in the areas of production capital, administrative process, and outcomes.

รายการไฟล์

ชื่อ ไฟล์ ขนาด ประเภทไฟล์ ดาวน์โหลด วันที่ทำรายการ