บทคัดย่อภาษาไทย

ดุษฎีนิพนธ์นี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ บริบท สภาพปัญหา ความต้องการ จำเป็น การพัฒนาผู้ประนีประนอมตื่นรู้ต้นแบบโดยสันติวิธี 2) เพื่อศึกษาวิเคราะห์พุทธสันติวิธีที่เอื้อ    ต่อการพัฒนา ผู้ประนีประนอมตื่นรู้ต้นแบบโดยพุทธสันติวิธี 3) เพื่อพัฒนาและนำเสนอผู้ประนีประนอมตื่นรู้ต้นแบบโดยพุทธสันติวิธี เป็นงานวิจัยตามอริยสัจโมเดลสอดคล้องกับการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม ภายใต้กรอบการดำเนินการวิจัย 9 ขั้นตอน กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ 1) นักวิชาการ      ด้านพุทธศาสนา/สันติวิธี จำนวน 6 รูป/คน 2) ด้านผู้ประนีประนอม 5 คน 3) ด้านผู้นำองค์กรและศูนย์ไกล่เกลี่ยประจำศาล 5 คน 4) ด้านกระบวนการนักออกแบบการฝึกอบรม 5 คน 5) ด้านผู้กำกับเชิงนโยบายผู้ประนีประนอม 5 ท่าน โดยการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบเจาะจง และนำมาวิเคราะห์   อธิบายเชิงพรรณนา

ผลการวิจัย พบว่า

1) สภาพปัญหาของผู้ประนีประนอมผลการวิจัยพบว่า ปัจจุบันสังคมแห่งความแตกต่างปัญหาที่เกิดจากอคติ มีผลให้เกิดการตีความหมายที่ผิดเพี้ยนไป และที่สำคัญของผู้ประนีประนอม     ที่ต้องทำหน้าที่เป็นผู้ประนีประนอมระงับข้อพิพาทให้ประชาชน เมื่อเกิดผลกระทบ ปัญหาการตีความที่มีอคติลำเอียง มีทิฐิ มานะ อัตตา ตัวตนสูง Ego ที่เกิดขึ้น จึงจำเป็นต้องมีการพัฒนาองค์ความรู้     ทั้งภายในและภายนอกควบคู่กัน เพื่อการตื่นรู้เป็นปัจจุบันเป็นผู้ประนีประนอมตื่นรู้ต้นแบบต่อไป

2) พุทธสันติวิธีที่เอื้อต่อการพัฒนาผู้ประนีประนอมตื่นรู้ต้นแบบโดยพุทธสันติวิธี พบว่า หลักสติปัฏฐาน 4 ซึ่งเป็นหลักธรรมในการพัฒนาผู้ประนีประนอมให้เกิดสติ สัมปชัญญะ รู้ตัวทั่วพร้อมในพระพุทธศาสนามาเป็นหลักพุทธสันติวิธีบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ ที่เน้นการพัฒนาอบรม      เชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาผู้ประนีประนอมตื่นรู้ต้นแบบอย่างยั่งยืน

3) การพัฒนาผู้ประนีประนอมตื่นรู้ต้นแบบโดยพุทธสันติวิธีผลการวิจัยพบว่า พัฒนาภายใน จิตใจ ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน 4 ดูกาย อิริยาบท ยืน เดิน นั่ง นอน ดูเวทนา รู้เวทนา          สุข ทุกข์ เฉย ๆ รู้จิต ตื่นรู้เข้าใจธรรมที่เป็นกุศล อกุศล มีจิตผ่องใสรู้และเข้าใจอริยสัจจ์ 4 มากขึ้น       โดยมีการพัฒนาด้านพฤติภาพตามโมเดล 5 ด้าน ใช้หลักพุทธสันติวิธีบูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่พัฒนาอบรมเชิงปฏิบัติถูกต้องเกิดการตื่นรู้ เป็นการเรียนรู้สู่ภายในสู่ภายนอกและภายนอกสู่ภายในด้วยการลงมือปฏิบัติ

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The study consisted of the following objectives: 1) to investigate context, problems requirements, and needs for the development of a model awakened mediator by Buddhist peaceful means; 2) to explore the Buddhist peaceful means conducive to the development of a model awakened mediator; and 3) to develop and present a model awakened mediator by Buddhist peaceful means. The study was based on Ariyasacca (the Four Noble Truths) model in accordance with research and development (R&D) method under the 9-step research framework. The key informants included: 1) six scholars on Buddhism/ peaceful methods; 2) five conciliators; 3) five leaders of organizations and mediation centers in court; 4) five instructional designers; and 5) five policy administrators for conciliators. The data were collected by using purposive in-depth interview. The obtained data were analyzed by descriptive method.

From the study, the following results are found:

            1) Mediator' problems include disparities in today’s world that contribute to bias, resulting in misinterpretation among individuals, particularly among conciliators who have a duty to resolve disputes for people. To address the problem of misinterpretation with bias, egoism, conceit, and wrong view, mediator must simultaneously develop a body of knowledge both from within and without in order to be a model awakened mediator.

2) From exploring Buddhist peaceful means conducive to the development of a model awakened mediator, the finding revealed that Satipaṭṭhāna (Four Foundations of Mindfulness) contributes to the development of mediators with Sati (Mindfulness) and Sampajañña (Comprehension) to integrate Buddhist peaceful means, with a continual emphasis on participatory workshop. This will lead to the development of a sustainable model awakened mediator.

3) From investigating the development of a model awakened mediator by Buddhist peaceful means, the finding discovered that the mind can be developed through cultivating the four foundations of mindfulness, namely (1) contemplation of the body, such as standing, walking, sitting, lying down; (2) contemplation of feelings, such as happiness, suffering, indifference; (3) contemplation of mind; and (4) contemplation of mind-objects, such as wholesomeness, unwholesomeness, as well as having a pure mind that is capable of comprehending the Four Noble Truths. The behavioral development based on the 6-aspect model integrates Buddhist peaceful means with modern science to create a workshop that focuses on practice, leading to awakening.  This is regarded as learning from within to without and vice versa, , which is attainable through practice.

รายการไฟล์