บทคัดย่อภาษาไทย

                 งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1. เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนของเทศบาลตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี 2. เพื่อเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนของเทศบาลตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยการจำแนกปัจจัยส่วนบุคคล 3. เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนตามหลักอปริหานิยธรรมของเทศบาลตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงสำรวจ จากแบบสอบถาม กับกลุ่มตัวอย่างใช้หลักการสุ่มแบบแบ่งชั้น จำนวน 344 คน และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก กับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ โดยการเก็บรวมรวมข้อมูลด้วยวิธีการแจกแบบสอบถามกับการสัมภาษณ์กับกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญที่ได้กำหนดไว้ทั้งหมดจำนวน 9 รูปหรือคน โดยการการทดสอบสมมติฐานเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนกับ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนตามหลักอปริหานิยธรรมของเทศบาลตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล สถิติที่ใช้คือ การทดสอบค่าที ในกรณีตัวแปรอิสระสองกลุ่มและการทดสอบค่าเอฟ ด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว

               ผลการวิจัยพบว่า

               1. ระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนของเทศบาลตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยภาพรวมอยู่ ในระดับปานกลาง เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ด้านการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ด้านการมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ และด้านการมีส่วนร่วมในการประเมินผล อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน

              2. ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนของเทศบาลตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชาชนที่มี เพศและอายุต่างกันมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐาน ส่วนประชาชนที่มีระดับการศึกษา อาชีพและรายได้ แตกต่างกัน มีส่วนรวมในการพัฒนาชุมชนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย

              3. ปัญหา อุปสรรค เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนเทศบาลตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี 1) การตัดสินใจ วันทำงานไม่ตรงกัน เสียงประชาสัมพันธ์ ไม่ค่อยได้ยินเสียง บางจุดเสียงตามสาย ไม่ทั่วถึง จึงทำให้ ไม่ได้รับข่าวสารเท่าที่ควร 2) การดำเนินงาน ผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่น้อย ประชาชนขาดความรู้ และหน่วยงานล่าช้า แก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ประชาชนมีอายุมากแล้ว ไม่สะดวกเข้าร่วมงานกับชุมชนบ่อยนัก 3) การรับผลประโยชน์ ชุมชนของบประมาณจะไม่ค่อยได้รับผล ทำเรื่องยื่นขอไป หลายชุมชน เลยทำให้บางชุมชนไม่ได้รับการอนุมัติให้เกิดการพัฒนาชุมชน 4) การประเมินผล ประชาชนขาดความร่วมมือ ไม่มีความรู้เรื่องแผนพัฒนา หน่วยงานยังไม่ชัดในเรื่องแก้ไขปัญหาในชุมชน ประชาชนที่ค้าขายให้ความร่วมมือของคนในชุมชนยังขาดการประสานงานให้มีส่วนร่วมกิจกรรม ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาชุมชนเทศบาลตำบลสระกระโจม อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี 1) การตัดสินใจ ควรมีการเพิ่มช่องการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร เสียงตามสายให้ทั่วถึง หน่วยงานควรให้ความสำคัญชุมชนทุกชุมชนให้เท่ากันในการส่งงบประมาณให้ชุมชนได้พัฒนา ถ้ามีการประชุม ควรเห็นเป็นวันหยุดหรือวันว่างงาน 2) การดำเนินงาน อยากให้นายกเทศมนตรีควรลงพื้นที่พบปะประชาชนให้บ่อยๆ อยากให้ทางเจ้าหน้าที่บ้านเมืองปฏิบัติหน้าที่เข้มงวดกวาดล้าง ยาเสพติด อยากให้มีงานสำหรับวัยรุ่นในวัยเรียน ทำให้สร้างรายได้ช่วยเหลือครอบครัว 3) การรับผลประโยชน์ ฝึกอบรมประชาชน ให้ความรู้ ความเข้าใจให้ความสำคัญทุกชุมชนและให้บริการที่ทั่วถึงทุกชุมชนได้เกิดการพัฒนาชุมชนอย่างจริงจัง อยากให้ดูแลผู้สูงอายุได้มีคุณภาพที่ดีกว่านี้ ในด้านอาชีพ กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ การเจ็บป่วยที่มีหมอ มียาให้ทันเห็นการณ์ยามลูกหลานไม่ช่วยดูแล 4) การประเมินผล ควรให้มีตู้แดงประจำชุมชน สอบถามถึงปัญหาให้แท้จริง ปฏิบัติจริง ในการแก้ไขเจาะให้ตรงประเด็นนั้นๆ ควรมีการแจ้งผลประเมินให้ประชาชนได้ทราบอย่างทั่วถึง ทางอินเตอร์เน็ต เว็บไซต์ เป็นต้น

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The study consisted of the following objectives: 1) to investigate the level of people’s participation in community development of Sakrachom Subdistrict Municipality, Don Chedi District, Suphanburi Province; 2) to compare people’s participation in community development according to Aparihaniyadhamma of Sakrachom Subdistrict Municipality, Don Chedi District, Suphanburi Province classified by personal factors; and 3) to explore problems and suggestions on people’s participation in community development according to Aparihaniyadhamma of Sakrachom Subdistrict Municipality, Don Chedi District, Suphanburi Province. The study used mixed-methods research, with the quantitative method using survey research and data collected from questionnaires with 344 people chosen through stratified sampling. The qualitative method used in-depth interviews and questionnaires to collect data from 9 key informants.

From the study, the following results are found:

1) People’s participation in community development of Sakrachom Subdistrict Municipality, Don Chedi District, Suphanburi Province is overall at a moderate level with the following details: participation in gaining benefits participation in the operation participation in decision-making and participation in evaluation respectively.

2) Comparing people’s participation in community development of Sakrachom Subdistrict Municipality, Don Chedi District, Suphanburi Province classified by personal factors, it is revealed that people of different genders and ages have no difference in their participation in community development, thereby rejecting the null hypothesis. People of different educational levels, occupations, and incomes differ in their participation in community development with a statistical significance of 0.05 level, thereby accepting the null hypothesis.

3) Suggestions on people’s participation in community development of Sakrachom Subdistrict Municipality, Don Chedi District, Suphanburi Province are as follows: (1) Decision-making as there should be more public relations channels that cover all areas. The agencies should give equal importance to all communities by allocating development funds to all communities. Meetings should be scheduled for a day off or a leisure day; (2) Operation as the mayor should frequently visit the area and interact with people, and officials should strictly carry out their duties related to drugs. Teenagers should be given the chance to work so they can support their families financially; (3) Gaining benefits as people should be trained and provided with knowledge. All communities should be given equal importance and comprehensive services should be offered at all communities in order to achieve community development. The elderly should have a better quality of life especially in terms of career, health-promoting activities, doctors to treat them when they become ill and medicines to take if their descendants do not care for them; and (4) Evaluation as there should be a box for community members to inquire about problems so that relevant solutions can be implemented and solved, as well as evaluation results that should be communicated to people in a comprehensive manner, whether via internet, website, etc.

รายการไฟล์