บทคัดย่อภาษาไทย

การศึกษาวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาระดับการบริหารจัดการการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเทศบาลเมืองไร่ขิง จังหวัดนครปฐม  2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารจัดการการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเทศบาลเมืองไร่ขิง จังหวัดนครปฐม โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล 3. เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะการบริหารจัดการการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเทศบาลเมืองไร่ขิง จังหวัดนครปฐม

ดำเนินการตามระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี โดยเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งใช้แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.932 จากกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั่งแต่ 12 ปีขึ้นไปในตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จำนวน 384 คน จากประชากรทั้งหมด 22,398 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการทดสอบค่าเอฟ ด้วยวิธีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว ในกรณีตัวแปรต้นตั้งแต่ 2 กลุ่มขึ้นไป เมื่อพบว่ามีความแตกต่างจะทำการเปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่ด้วยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด และการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิธีสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 12 คนแบบตัวต่อตัว วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา                             

ผลการวิจัยพบว่า

1. ระดับการบริหารจัดการการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเทศบาลเมืองไร่ขิง จังหวัดนครปฐม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก (X̅ = 3.93) เมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่าการบริหารจัดการการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเทศบาลเมืองไร่ขิง จังหวัดนครปฐม ด้านทรัพยากรบุคคล (X̅  = 3.98, S.D. = 0.443) ด้านหน้าที่ความรับผิดชอบ(X̅ = 3.94, S.D. = 0.516) ด้านโครงสร้างชุมชน (X̅ = 3.93, S.D. = 0.449) ด้านโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยี (X̅ = 3.91, S.D. = 0.507) ด้านการให้บริการ (X̅ = 3.98, S.D. = 0.435) ทุกด้านอยู่ในระดับมาก

2.  ผลการเปรียบเทียบการบริหารจัดการการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเทศบาลเมืองไร่ขิง จังหวัดนครปฐม โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า ประชากรที่มี เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา และอาชีพ ที่แตกต่างกัน มีระดับความคิดเห็น โดยภาพรวมไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานที่ตั้งไว้

3. ปัญหา อุปสรรค ของการบริหารจัดการการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเทศบาลเมืองไร่ขิง จังหวัดนครปฐม คือ ปัจจุบันเทคโนโลยีมีหลากหลายประเภท และมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาทำให้ไม่สามารถทำความเข้าใจและใช้งานตามได้ทันเพราะการให้บริการในแต่ละด้านต้องใช้เวลานาน อีกทั้งมีราคาสูงไม่สามารถซื้อรุ่นใหม่เพื่อพัฒนาระบบได้ทัน การใช้งานของผู้สูงอายุนั้นยังไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ  ประชาชนประกอบอาชีพการเกษตรไม่ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี ศูนย์ข้อมูลข่าวสารยังไม่เพียงพอ ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการถ่ายทอดความรู้จากผู้นำชุมชน  ระยะเวลาในการจัดอบรมบางเรื่องยังไม่เพียงพอ ขาดการให้ความรู้แบบลงพื้นที่เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่แท้จริง ขาดการจัดทำคู่มือเพื่อเป็นฐานข้อมูล ขาดการจูงใจในการเข้าอบรมและเข้าใช้เทคโนโลยี ขาดการสำรวจข้อมูลหรือแนะแนวหัวข้อก่อนวันเริ่มประชาคม ประชาชนจึงไม่มีข้อมูลที่เพียงพอในการเสนอต่อที่ประชุม และข้อเสนอแนะในการบริหารจัดการการให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศของเทศบาลเมืองไร่ขิง จังหวัดนครปฐม คือ ส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะเทคโนโลยีกับการดำเนินงานนั้นควรมีการพัฒนาให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เน้นการใช้แอปพลิเคชั่นที่สามารถใช้งานกับเทคโนโลยีที่ราคาไม่สูง ส่งเสริมการเรียนรู้เทคโนโลยีสู่กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มการเกษตร เพิ่มศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนโดยการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานอื่นๆ ในการให้บริการคอมพิวเตอร์ สร้างความเชื่อมั่นด้านความรู้ความสามารถของผู้นำชุมชน เพิ่มระยะเวลาในการจัดอบรม พร้อมกับพาลงพื้นที่ปฏิบัติจริงจะได้ทราบถึงปัญหาในการใช้งานขณะนั้นและสามารถแก้ปัญหาการใช้งานได้จริง จัดทำคู่มือเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ใหม่ สร้างแรงจูงใจในการเข้าอบรมและเข้าใช้เทคโนโลยี เช่น การให้รางวัล และทำการสำรวจข้อมูลก่อนวันเริ่มประชาคม เพื่อให้ประชาชนได้จัดเตรียมเนื้อหาข้อมูลเสนอต่อที่ประชุม

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The objectives of this research were: 1. to study the level of Information Technology service management of Rai Khing Municipality, Nakhon Pathom Province, 2. to compare public opinion on information technology service management of RaiKhing Municipality, Nakhon Pathom, classified by personal factors and 3. to study the problems, obstacles and suggestions for management of information technology service of Rai Khing Municipality, Nakhon Pathom Province.   

Methodology was the mixed methods: The quantitative research collected data by questionnaires with the whole confidence value equal to 0.632 from the 384 samples from the populations of 22,398 people who were 12 years old and over    at Rai Khing Subdistrict, Sam Phran District, NakhonPathom Province,  analyzed data by statistics of frequency, percentage, mean and standard deviation t-test, F-test, one way ANOVA, and tested the paired variables differences by the least significance difference, LSD. The qualitative research collected data from 12 key informants by face-to-face in-depth-interview and analyzed data by descriptive interpretation.   

Findings of this research were as follows

1. Level of information technology service management of Rai Khing Municipality Nakhon Pathom, by overall, was at a high level (X̅ = 3.73) when classified by each aspect, it was found that Information Technology Service Management of Rai Khing Municipality,  Nakhon Pathom ,  Human resources aspect was at high level (X̅ = 3.9, S.D. = 0.443), responsibility  aspect was at high level (X̅ = 3.64, SD = 0.516), community structure aspect was at high level (X̅ = 3.73, SD = 0.479),  basic structure of Information technology aspect was at high level (X̅ = 3.71, SD = 0.509), service aspect was at  high level (X̅ = 3.6, SD = 0.4735), all aspects are at a high level.

2. The comparison of people opinions on the information technology service management of Rai Khing Municipality Nakhon Pathom, classified by personal factors indicated that people with different gender, age, status, education level and occupation did not have different opinions on the information technology service management of Rai Khing Municipality Nakhon Pathom, rejecting the set hypothesis.

3. Problems and obstacles of information technology learning management of RaiKhing Municipality NakhonPathom province were as follows: there were various types of information technology and always developed that make it difficult o follow up the trend, besides the prices of information technology was very high unaffordable for the new models. Older persons could not use the information technology at its most efficiency. People in the location did not have confidence in community leaders for knowledge transferring, the time for learning technology was limited and not the hand-on practice. There was no interesting handbooks for technology learning. There was not need assessment before training, people dinot know the activities before hand. Suggestions for the information technology service management of Rai Khing Municipality Nakhon Pathom, were that there should be integrated training for information technology usage of the technology that has been continuously developed emphasizing using low cost applications for the group of older persons and agriculturalists. Information technology centers should be added connecting with various agencies for computer using services. Confidences in community leaders should be created. The time for information technology learning should be extended. Educational fieldtrip should be added so that learners would have experiences in the real situation of technology application. There should be handbooks for new personnel and applying motivation techniques to learners to participate in training such as assessment and rewarding, surveying data before meeting sot that people would have data and information to propose in the meeting.

รายการไฟล์