การวิจัยครั้งนี้วัตถุประสงค์คือ 1. เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปการบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้ประกอบการในการบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคล 3. เพื่อวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของหลักสังคหวัตถุ 4 กับการบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 4. เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อ การบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ

               การวิจัยครั้งนี้เป็นแบบผสานวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณ ดำเนินการโดยศึกษากลุ่มตัวอย่างจำนวน 332 คน จากประชากรซึ่งเป็นผู้ประกอบการที่ใช้แรงงานต่างด้าว ทั้งหมด 1,950 คน คำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโร่ ยามาเน่ เครื่องมือที่ใช้เก็บรวมรวมข้อมูลได้แก่แบบสอบถามแบบประมาณค่า 5 ระดับที่ระดับความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.950 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที และการทดสอบค่าเอฟ โดยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว  และเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยเป็นรายคู่โดยวิธีผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ด้วยวิธีของเพียร์สัน การวิจัยเชิงคุณภาพดำเนินการโดย สัมภาษณ์เชิงลึกผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 14 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา

ผลการวิจัยพบว่า                                                                                                                                                   
               1. การบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( X̅ = 3.85, S.D. = 0.677) เมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน ตามลำดับค่าเฉลี่ย คือ 5 ด้าน ด้านการบังคับบัญชาสั่งการ (X̅ = 3.88, S.D.= 0.734) ด้านการจัดการองค์กรในการทำงาน (X̅= 3.86, S.D.= 0.728) ด้านการวางแผนในการทำงาน (X̅ = 3.85, S.D. = 0.802) ด้านการประสานงานในการทำงาน ( X̅ = 3.85, S.D. = 0.742) ด้านการควบคุมงาน (X̅ = 3.83, S.D. = 0.736) ทุกด้านอยู่ในระดับมาก ตามลำดับ

               2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของ การบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่าผู้ประกอบการ ที่มีอายุ ระดับการศึกษา ต่างกัน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย ส่วนผู้ประกอบการ ที่มี เพศ ตำแหน่ง ระยะเวลาดำเนินการ ต่างกัน มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย

               3. ความสัมพันธ์ระหว่างหลักสังคหวัตถุ 4 กับการบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พบว่า หลักสังคหวัตถุ 4 มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับการบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการ โดยภาพรวมอยู่ในระดับสูง (R=0.830)

               4. ปัญหา อุปสรรค การบริหารจัดการการใช้แรงงานต่างด้าวของผู้ประกอบการใน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ พบว่า มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับแรงงานต่างด้าว ปัญหาที่พักอาศัย ปัญหาการยอมรับแรงงานต่างด้าว และปัญหาการขาดแคนแรงงาน  ข้อเสนอแนะได้แก่ ด้านการสื่อสารต้องอธิบายและการสั่งการให้ชัดเจน โดยผู้ที่พูดภาษาของแรงงานต่างด้าวได้ ด้านที่พัก ผู้ประกอบการควรอำนวยความสะดวกตามสมควร ด้านการยอมรับ ผู้ประกอบการควรให้ความเสมอภาคระหว่างแรงงานไทยและแรงงานต่างด้าว ด้านการขาดแคลนแรงงาน ผู้ประกอบการควรสรรหาแรงงานที่มีความรู้ความสามารถจากแหล่งที่เชื่อถือได้ และควรเปิดโอกาสให้แรงงานต่างด้าวได้แสดงความคิดเห็น เพื่อนำมาปรับปรุงการบริหารจัดการ

                 The objectives of this research were; 1) to study the general status of foreign laborers administration of entrepreneurs at Bang Phli District, Samut Prakran Province, 2) to compare the entrepreneur opinions for foreign laborers administration at Bang Phli District, Samut Prakran Province, 3) to analyze relation between San˙ gahavatthu and foreign laborers administration of entrepreneurs at Bang Phli District, Samut Prakran Province, and 4) to study the problems obstacles and recommendations of foreign laborers administration of entrepreneurs at Bang Phli District, Samut Prakran Province.

                  Methodology was mixed methods. The quantitative research collected data from 332 samples 1,950 persons of foreign laborers entrepreneurs from using Taro Yamane's formula. The data collection tool was 5 rating scale questionnaires at reliability of 0.950.  The statistics used to analyze data were frequency, percentage, mean, standard deviation, T-test, One Way Analysis of Variance, Least Significant Different: LSD and Pearson's correlation coefficient. The qualitative research conducted by interviewing the 14 key informants and analyzed the data by using descriptive infer pretation techniques.

                  The research findings were as follows:

1. The foreign laborers administration of entrepreneurs at Bang Phli District, Samut Prakran Province by overall were at high level (X̅ = 3.85, S.D. = 0.677). Each aspect were also at high level. Control and Command aspect was at X̅ = 3.88, S.D. = 0.734, organizing aspect was at X̅ = 3.86, S.D. = 0.728, planning aspect   was at X̅ = 3.85, S.D. =0.802, coordinating aspect was at  X̅ =3.85, S.D. =0.742, and controlling aspect was at X̅ = 3.83, S.D. = 0.736 respectively.

2. The comparison of the entrepreneur’s opinions for foreign laborers administration of entrepreneurs at Bang Phli District, Samut Prakran Province  was found that the entrepreneurs wich different age and education level had different opinions. Rejecting the hypothesis. Entrepreneurs wich differene gender position and duration of work had different opinions significanty at 0.05 levels. Accepting the hypothesis.

3. The relationship between Sangahavatthu and foreign laborers administration of entrepreneurs at Bang Phli District, Samut Prakran Province  was found that the Sangahavatthu has positively correlated with the foreign laborers administration of entrepreneurs by overall were at high level. (R = 0.830)

4. Problems, obstacles of foreign laborers administration of entrepreneurs at Bang Phli District, Samut Prakran Province were found that the problems and obstacle were communication, shelter, acceptance of foreign labors and labor shortage. Recommendations were that communicating with the foreign laborers must be to expand and command clearly by people who can speak the language of foreign labors. Entrepreneurs should provide the shelter for foreign labors appropriately. Entrepreneurs should treat Thai and foreign labors Egually. Entrepreneurs should recruit skilled laborers from reliable sources and entrepreneurs should allow opportunities for foreign labors to express their opinions to improve administration.