บทคัดย่อภาษาไทย

      การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H เรื่อง ปัญญาและวิริเยนตามพุทธศาสนสุภาษิตของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษาอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H เรื่อง ปัญญาและวิริเยนตามพุทธศาสนสุภาษิตของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร  2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H เรื่อง ปัญญาและวิริเยนตามพุทธศาสนสุภาษิตของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร เป็นการวิจัยเชิงทดลอง ประชากรที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 30 คน โดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาวิจัย ในครั้งนี้ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H เรื่อง ปัญญาและวิริเยนตามพุทธศาสนสุภาษิต 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H เรื่อง ปัญญาและวิริเยนตามพุทธศาสนสุภาษิต สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่สถิติค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสถิติทดสอบค่า t-test.

ผลการวิจัย พบว่า

     1) ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H เรื่อง ปัญญาและวิริเยนตามพุทธศาสนสุภาษิตของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษาอำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นนั้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ (E₁) 80.83/(E₂) 84.33  สอดคล้องกับเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

     2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้โดยใช้เทคนิคการตั้งคำถาม 5W1H เรื่อง ปัญญาและวิริเยนตามพุทธศาสนสุภาษิตของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเจริญศิลป์ศึกษา อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ย ( x̅ = 12.50, S.D. = 1.38) และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ย  ( x̅ =16.87, S.D. = 0.90)  เมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน พบว่า คะแนนสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

     The objectives of this research were 1) to develop the learning management with 5W1H questioning technique on Panna (wisdom) and Viriyen (effort) in Buddhist proverbs for Grade 5 students at Charoen Sin Sueksa School, Muang District, Samut Sakhon Province at 80/80 of  criterion, and 2) to compare the pretest and posttest of the learning achievement with 5W1H questioning technique on Panna and Viriyen in Buddhist proverbs for Grade 5 students at Charoen Sin Sueksa School, Muang District, Samut Sakhon Province. This research applied Experimental Research with One Group Pretest Posttest Design. The sample was 30 Grade 5 students at Charoen Sin Sueksa School, Muang District, Samut Sakhon Province in the second semester of the academic year 2022 with purposive sampling. The research instruments were 1) the learning management plan with 5W1H questioning technique on Panna and Viriyen in Buddhist proverbs, and 2) the pretest and posttest of the learning achievement with 5W1H questioning technique on Panna and Viriyen in Buddhist proverbs. The statistics for the data analysis used percentage, mean, standard deviation, and t-test.

The research results were as follows:

     1. The result of developing the learning management with 5W1H questioning technique on Panna and Viriyen in Buddhist proverbs for Grade 5 students at Charoen Sin Sueksa School, Muang District, Samut Sakhon Province found that the efficiency was 80.83/84.33 that conformed to the criterion at 80/80.

     2. The result of comparing the pretest and posttest of the learning achievement with 5W1H questioning technique on Panna and Viriyen in Buddhist proverbs for Grade 5 students at Charoen Sin Sueksa School, Muang District, Samut Sakhon Province found that the pretest was  x̅ = 12.50, S.D. = 1.38, and the posttest was  x̅ = 16.87, S.D. = 0.90. When comparing the pretest and posttest, it was found that the posttest of the learning achievement was higher than the pretest at 0.05 of statistical significance.

รายการไฟล์