บทคัดย่อภาษาไทย

               การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาระดับภูมิคุ้มกันทางใจของบุคลากรโรงพยาบาล 2) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยพุทธจิตวิทยากับภูมิคุ้มกันทางใจของบุคลากรโรงพยาบาล 3) เพื่อศึกษาปัจจัยพุทธจิตวิทยาที่มีอิทธิพลในการทำนายภูมิคุ้มกันทางใจของบุคลากรโรงพยาบาล เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 144 คน ที่เป็นบุคลากรของโรงพยาบาลไทรน้อย อำเภอไทรน้อย จังหวัดนนทบุรี การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนชนิดทางเดียว ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุคูณ

          ผลการวิจัยพบว่า

          1. บุคลากรโรงพยาบาล มีระดับภูมิคุ้มกันทางใจโดยรวม ( = 3.63, SD. = .338) อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านความเข้มแข็งทางใจ(อึด) (  = 3.76, SD. = .394) อยู่ในระดับมาก รองลงมา ด้านสามารถต่อสู้กับปัญหาอุปสรรค (สู้) (  = 3.66, SD. = .446) อยู่ในระดับมาก และด้านศรัทธาและกำลังใจที่ดี(ฮึด) (  = 3.33, SD. = .437) อยู่ในระดับปานกลาง  

             2. ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยพุทธจิตวิทยากับภูมิคุ้มกันทางใจของบุคลากรโรงพยาบาล จากผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยพุทธจิตวิทยา ได้แก่ สติ และต้นทุนจิตวิทยาเชิงบวกมีความสัมพันธ์กับภูมิคุ้มกันทางใจของบุคลากรโรงพยาบาล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

            3. ปัจจัยทางพุทธจิตวิทยามีอิทธิพลในการทำนายระดับภูมิคุ้มกันทางใจของบุคลากรโรงพยาบาล อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มีด้วยกัน 3 ปัจจัย โดยเรียงลำดับจากปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการทำนายมากที่สุดไปยังปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการทำนายน้อยที่สุด ได้แก่ ความยืดหยุ่น การรับรู้ตามความเป็นจริง และการมองโลกในแง่ดี โดยปัจจัยทั้ง 3 นี้ สามารถร่วมกันทำนายภูมิคุ้มกันทางใจของบุคลากรโรงพยาบาล ได้ร้อยละ 43.9

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

          The objectives of this research were 1) to study the level of mental immunity of hospital personnel; 2) to study the relationship between Buddhist-psychological factors and the mental immunity of hospital personnel; and 3) to study the influence of Buddhist-psychological factors on prediction of the mental immunity of hospital personnel. The study was a quantitative research in nature, A sample of 144 respondents as the personnel of Sai Noi Hospital, Sai Noi District, Nonthaburi Province. For analyzing data the statistics including frequency, percentage, mean, standard deviation, t-test, one-way analysis of variance of Pearson correlation coefficient and multiple regression analysis was employed.

          Findings of the study were as follows:

          1. Hospital personnel had the overall level of mental immunity (X ̅ = 3.63, SD. = .338) at a high level, while considering each aspect, it was found that the aspect of mental strength (toughness) was the highest average of X ̅ = 3.76, SD. = .394, followed by the aspect of being able to fight problems and obstacles (fight) as X ̅ = 3.66, SD. = .446), and the aspect of faith and good morale (spirit) was equal to X ̅ = 3.33, SD. = .437 at a moderate level.

          2. The relationship between Buddhist Psychological factors and the mental immunity of hospital personnel revealed that Buddhist Psychological factors including mindfulness and positive psychology had a positive relationship with mental immunity at a low to moderate level with a statistical significance at the .05 level.

          3. Psychological factors with an influence on predicting mental immunity level of hospital personnel at statistical significance at the .05 level consisted of 3 factors ranked from the most influencing factors to the least influencing factors, namely, flexibility, real perception, and optimism with these 3 factors being predictable together on the mental immunity of hospital personnel at 43.9 percent.

รายการไฟล์