บทคัดย่อภาษาไทย

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ คือ 1) เพื่อศึกษาระดับภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3) เพื่อนำเสนอการบูรณาการหลักพรหมวิหารธรรมเพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ โดยมีระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพเก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลที่สำคัญจำนวน 9 รูปหรือคน ด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก และการวิจัยเชิงปริมาณเก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถามจากกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 399 คน จากประชาชนผู้ที่มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปซึ่งอาศัยอยู่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 98,561 คน โดยเครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที (t-test) และค่าเอฟ (F-test) และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณนาความ (Descriptive Interpretation)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ระดับภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ โดยรวม อยู่ในระดับมาก (x̅ =3.79) เมื่อจำแนกเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านคุณลักษณะ (x̅ =3.81) ด้านตามสถานการณ์ (x̅ =3.79) ด้านการเปลี่ยนแปลง (x̅ =3.79) และด้านพฤติกรรม (x̅ =3.76) อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ

2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ พบว่า ประชาชนที่มี เพศ และการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย ส่วนประชาชนที่มี อายุ อาชีพ และรายได้ต่างกัน มีความคิดเห็นต่อภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย

3. ผลการนำเสนอการบูรณาการหลักพรหมวิหารธรรมเพื่อส่งเสริมภาวะผู้นำทางการปกครองของผู้ปกครองท้องที่ในอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ พบว่า 1) ด้านคุณลักษณะตามหลักพรหมวิหารธรรม ผู้ปกครองท้องที่ควรมีคุณธรรมจริยธรรมในการปกครอง ควรมีความรู้ความสามารถในการปกครอง ควรมีระเบียบวินัยในการปกครอง ควรวางตัวให้เหมาะสมน่าเคารพเลื่อมใส และควรมีวุฒิภาวะมีความอดทนในการปกครอง ซึ่งถือว่ามีความสำคัญเปรียบเสมือนเป็นบันไดขั้นแรกให้ก้าวเดินอย่างมั่นคงแข็งแรงในการปกครองพัฒนาชุมชนให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองสืบไป 2) ด้านพฤติกรรมตามหลักพรหมวิหารธรรม ผู้ปกครองท้องที่ควรชอบช่วยเหลือสังคม ควรมีความรักความเมตตาต่อประชาชน ควรมีความเด็ดขาดและเข้มแข็งอดทน ควรมีความยุติธรรม และควรใช้วาจาสุภาพเรียบร้อยในการปกครอง เพราะการปฏิบัติตนที่เรียกว่าพฤติกรรมนั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอีกประการหนึ่งในการปกครอง เพราะถือว่าเป็นต้นแบบหรือแบบอย่างที่ผู้ตามจะนำไปยึดถือปฏิบัติตาม 3) ด้านตามสถานการณ์ตามหลักพรหมวิหารธรรม ผู้ปกครองท้องที่ควรมีความกล้าหาญ กล้าคิด กล้าตัดสินใจ ควรรู้จักการปรับตัวให้ทันยุคทันสมัย ควรมีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการปกครอง ควรแก้ไขสถานเฉพาะหน้าได้ดี และควรมีไหวพริบปฏิภาณในการปกครอง เพื่อใช้ความรู้ความสามารถของตนในการปกครองประชาชนให้เกิดความสงบสุขในชุมชนและในสังคม และจะได้ตอบสนองความต้องการของประชาชนในแต่ละสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างถูกต้องเหมาะสม 4) ด้านการเปลี่ยนแปลงตามหลักพรหมวิหารธรรม ผู้ปกครองท้องที่ควรเปลี่ยนแปลงพัฒนาชุมชนให้เจริญขึ้น ควรผสมผสานแนวคิดสมัยใหม่กับสมัยเก่าให้กลมกลืนกัน ควรกล้าเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาการปกครองประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ควรมีความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาชุมชน และควรเป็นผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจต่อชุมชน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใต้บังคับบัญชาและประชาชนในชุมชนเสนอวิธีการใหม่ ๆ ในการปกครองและในการบริหารจัดการงานต่าง ๆ อันจะเป็นประโยชน์ต่อความก้าวหน้าในองค์กรและชุมชนนั้น ๆ อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The objectives of the research were 1) to study the people’s opinions about the level of government leadership of local rulers in Nong Bua Daeng District, Chaiyaphum Province, 2) to compare the government leadership of local rulers in Nong Bua Daeng District, classified by personal factors and 3) to present the integration of Brahma Vihara Dhamma to promote government leadership of local rulers in Nong Bua Daeng District. The research methodology was the mixed method. The qualitative research collected data from 9 key informants with in-depth interviews and the quantitative research collected data with questionnaires from 399 samples out of 98,561 people aged 18 years upward living in Nong Bua Daeng District, Chaiyaphum Province. The research tools were questionnaires and interview formats. The data were analyzed by frequency, percentage, mean, standard deviation, the hypotheses were tested by t-test and F-test and the data were analyzed with descriptive interpretation.

Findings of the research were as follows:

1. The levels of government leadership of local rulers in Nong Bua Daeng District, Chaiyaphum Province overall were high (x̅=3.79), classified by side from high to low as follows: characteristic (x̅=3.81), situation (x̅=3.79), changing (x̅=3.79), and behavior (x̅=3.76) respectively.

2. The comparison of the people’s opinions about the government leadership of local rulers in Nong Bua Daeng District found that the people with different sex and educations had no different opinions about the government leadership whereas those with different age, occupations and incomes had different opinions with statistical significance 0.05.

3. The presentation of the integration of Brahma Vihara Dhamma to promote government leadership of local rulers in Nong Bua Daeng District, Chaiyaphum Province found that 1) For characteristic according to Brahma Vihara Dhamma, the local rulers should have virtues, competence and disciplines in ruling, behave properly and respectably, and be competent and patient in ruling. This is important and the first firm step in communal ruling and developing for prosperity. 2) For behavior according to Brahma Vihara Dhamma, local rulers should love to help society, have loving-kindness, be strict, strong, patient and fair in ruling, and have lovely and kindly speech. Behavior is an important factor in ruling because it is an example or a model for followers. 3) For situation according to Brahma Vihara Dhamma, local rulers should be brave, dare to think and decide, adapt themselves to trend, have long visions in ruling, and be able to manage all situations. Moreover, they should use tactics in ruling in order to meet the wants of people in changing situations rightly and suitably. 4) For changing according to Brahma Vihara Dhamma, local rulers should change to develop community, compromise old and modern ideas, Dare to change to develop the ruling for better living of the people. They should have creative thinking to develop community and predestine the community by allowing the people to present new ruling ways helpful for progress in organizations and communities thoroughly and equally.

รายการไฟล์