บทคัดย่อภาษาไทย

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยทางจิตสังคมและการปฏิบัติตนด้านพุทธศาสนพิธีของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานครตามปัจจัยส่วนบุคคล 2) เพื่อศึกษาการปฏิบัติตนด้านพุทธศาสนพิธีที่มีผลต่อคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนมัธยมวัดเบญจมบพิตร กรุงเทพมหานคร งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 125 คน เครื่องมือสำหรับเก็บข้อมูลคือแบบสอบถาม สถิติ ที่ใช้ประกอบด้วย ค่าร้อยละ,ค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน, ทดสอบค่า, F-test, t-test (One Way ANOVA), สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และการวิเคราะห์ความถดถอยเชิงพหุ (Multiple Regression Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการเปรียบเทียบนักเรียนที่มีปัจจัยส่วนบุคคลต่างกัน มีปัจจัยทางจิตสังคม และการปฏิบัติตนด้านพุทธศาสนพิธีไม่แตกต่างกัน ซึ่งไม่ตรงกับสมมติฐานการวิจัย 2) การปฏิบัติตนด้านพุทธศาสนพิธีมีความสัมพันธ์กับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านใฝ่เรียนรู้ มีความสัมพันธ์ไปในทางบวก ซึ่งตรงกับสมมติฐานการวิจัย จากผลการศึกษาดังกล่าว จึงเสนอแนะว่าควรนำไปขยายผลเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านอื่น ๆ และควรการส่งเสริมให้มากขึ้นโดยอาจจะจัดกิจกรรม เช่น มัคนายกน้อย หรือประกวดการสวดมนต์ การกล่าวคำอาราธนาต่าง ๆ

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The purposes of this research are 1) to compare psychosocial factors and Buddhist ritual practices of middle school students at Wat Benchamabophitr am Secondary School Bangkok according to personal factors and 2) To study the practice of Buddhist ceremonies that affect the desired characteristics of middle school students. Wat Benchamabophitr Secondary School Bangkok. This research is quantitative. The sample group consisted of 125 people. The instrument for collecting data was a questionnaire. Statistics used consisted of Percentage, mean, standard deviation, t-test F-test(One Way ANOVA), Pearson correlation coefficient, and multiple regression analysis (Multiple Regression Analysis).

The research results found that: 1) comparing students with different personal factors, psychosocial factors, and practices in Buddhist ceremonies were similar, which does not correspond to the research hypothesis. 2) The practice of Buddhist ceremonies was different. Consistent with the research hypothesis, there is a positive relationship with the desired characteristics of eagerness to learn. From the said study, it is suggested that the results should be expanded to organize activities to promote other desirable characteristics and should be promoted more, perhaps by organizing activities such as young deacons or prayer contests. Saying various prayers.

รายการไฟล์