บทคัดย่อภาษาไทย

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1. เพื่อศึกษาระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของบุคลากรเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี ในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2562  2. เพื่อเปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของบุคลากรเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี ในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ.2562 จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3. เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะและแนวทางในการสนับสนุนให้บุคลากรเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี มีส่วนร่วมทางการเมืองในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป

            การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.957 กลุ่มตัวอย่างคือ บุคลากรของเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี จำนวน 246 คน โดยสุ่มตัวอย่างจากประชากรทั้งหมด 635 คน จากสูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane)  ซึ่งใช้ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าที (t-test) และการทดสอบค่าเอฟ (F-test) ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามปลายเปิด วิเคราะห์โดยการพรรณนาแจกแจงความถี่ประกอบตาราง และวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 8 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิควิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา

            ผลการวิจัยพบว่า

1. บุคลากรเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี มีส่วนร่วมทางการเมืองในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2562 โดยรวมอยู่ในระดับมาก ( =3.55, S.D.=0.54) เมื่อจำแนกเป็นรายด้านโดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการใช้สิทธิเลือกตั้ง  ( =3.57, S.D.=0.66) อยู่ในระดับมาก และ ด้านการประชาสัมพันธ์ ( =3.53, S.D.=0.62) อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ

            2. บุคลากรเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานีที่มีสถานภาพการสมรส และการศึกษาต่างกัน มีส่วนร่วมทางการเมืองในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2562 แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย ส่วนบุคลากรที่มี เพศ อายุ รายได้ และการได้รับข่าวสารเกี่ยวกับการเลือกตั้งต่างกัน มีส่วนร่วมในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป ไม่แตกต่างกัน จึงไม่ยอมรับสมมติฐานการวิจัย

3. แนวทางเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมทางการเมืองของบุคลากรเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี ในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2562 ที่บุคลากรต้องการและให้ความสำคัญในแต่ละด้าน มีดังนี้คือ ด้านการประชาสัมพันธ์ คือ บุคลากรเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นพลเมืองของประเทศ  และมีแนวทางแก้ไขคือ ควรเป็นผู้แทนภาครัฐในการให้ความรู้หรือรณรงค์การเลือกตั้งที่ถูกต้องตามการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแก่ประชาชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการศึกษาข้อมูลผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ต้องประชาสัมพันธ์และรณรงค์ให้เห็นประโยชน์ที่เกิดจากการเลือกตั้งและอนาคตการเมืองของประเทศ ด้านการไปใช้สิทธิเลือกตั้ง คือ บุคลากรองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทุกคนต้องไปเลือกตั้ง ถ้าไม่ใช้สิทธิ์ให้ถือเป็นความบกพร่องต่อหน้าที่ เพราะเข้าถึงข้อมูลการเลือกตั้ง ได้มากกว่าประชาชนทั่วไป

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

             Objectives of this research were: 1. To study the level of political participation of Rangsit Municipality personnel. Pathum Thani Province to exercise the right to vote in general election C.E. 2019, 2. To compare the level of political participation among personnel of Rangsit Municipality. Pathum Thani Province to exercise the right to vote in general election B.E. 2019 classified by personal factors, and 3. To study recommendations and guidelines to support the personnel of Rangsit Municipality. Pathum Thani Province Participate in politics to exercise the right to vote in general.

             Methodology was the mixed methods: The quantitative research collected data with questionnaires that had total reliability value at 0.957 from 246 samples, derived from 635 personnel at Rangsit city municipality, Pathum Thani province, using Taro Yamane’s formula with statistical significance level set at 0.05. Statistics used to analyze data were frequency, percentage, mean, standard deviation, hypothesis tested by t-test, F-test. The open-ended questionnaires were analyzed by table frequency. The qualitative research collected data from 8 key informants by in-depth-interviewing, analyzed data by descriptive interpretation.

                   Findings of the research were as follows:

1. Personnel of Rangsit Municipality Pathum Thani Province Participate in politics to 
exercise the right to vote in general election  2019, overall it was at a high level (= 3.55, S.D. = 0.54). 
When classified by side, in descending order of mean as follows: voting side (= 3.57, S.D. = 0.66) is at a high 
level. And public relations (= 3.53, S.D. = 0.62) were at the high level, respectively.

2. Personnel of Rangsit Municipality Pathum Thani province with marital status and education 
is different Participate in politics to exercise the right to vote in general. As of March 2019, there was 
a statistically significant difference at the level of 0.05. Personnel with different sexes, ages, income and 
receiving news about elections. Participate in the exercise of the general election no different

3. obstacles and guidelines for political participation of Rangsit Municipality personnel. Pathum Thani Province to exercise the right to vote in general on March 2019, the personnel needed and prioritized in each area were as follows: In terms of public relations, personnel are government officials. And be a citizen of the country and there is a solution, It should be a representative of the public sector in educating or campaigning for the correct democratic regime of government to the people. Public relations make the public see the importance of studying candidate information. Public relations and campaigning must be made to see the benefits arising from the elections and the political future of the country. In regards to the use of voting rights, the personnel of the local government organization everyone has to go to the polls. If the right is not used, it is considered a fault on duty. Because access to election information

รายการไฟล์