บทคัดย่อภาษาไทย

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1 เพื่อศึกษาทัศนคติทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของชาวกัมพูชาที่พำนักอยู่ในเขตราชเทวี  กรุงเทพมหานคร 2 เพื่อเปรียบเทียบทัศนคติทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของชาวกัมพูชาที่พำนักอยู่ในเขตราชเทวี  กรุงเทพมหานคร จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3 เพื่อศึกษาข้อเสนอแนะเกี่ยวกับทัศนคติทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของชาวกัมพูชาที่พำนักอยู่ในเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ประกอบด้วยการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.969 กลุ่มตัวอย่างคือประชาชนชาวกัมพูชาที่พำนักอยู่ในเขตราชเทวี  กรุงเทพมหานคร จำนวน 283 คน โดยสุ่มตัวอย่างจากประชากรจำนวน 967 คน จากสูตรของทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ซึ่งใช้ระดับความคลาดเคลื่อน 0.05 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าเอฟ (F-test) ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามปลายเปิด วิเคราะห์โดยการพรรณนาแจกแจงความถี่ประกอบตาราง และวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน 8 รูปหรือคน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้เทคนิควิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา

ผลการวิจัยพบว่า

1.ทัศนคติทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชนชาวกัมพูชาเขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง (x̅=3.30, S.D.= 0.47) เมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับปานกลางทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านทัศนคติในการเลือกตั้ง (x̅=3.38, S.D.= 0.78) รองลงมา ด้านสิทธิ เสรีภาพทางการเมือง (x̅=3.23, S.D.= 0.64) และด้านการแสดงออกทางการเมือง (x̅=3.23, S.D.= 0.69) ตามลำดับ

2.ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบ พบว่า ประชาชนชาวกัมพูชาที่มีเพศ อายุ การศึกษา สถานภาพ อาชีพ และรายได้ต่อเดือนต่างกัน มีทัศนคติทางการเมืองแบบประชาธิปไตย โดยรวมไม่แตกต่างกัน จึงไม่ยอมรับสมมติฐานการวิจัย

3.ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับทัศนคติทางการเมืองแบบประชาธิปไตยของประชาชนชาวกัมพูชา เขตราชเทวีกรุงเทพมหานคร ด้านการเลือกตั้ง พบว่า ประชาชนชาวกัมพูชาต้องการผู้นำที่เก่ง มีความรู้ มีความสามารถ นักการเมืองชาวกัมพูชาต้องดี ฉลาด มีความสามารถในการเป็นผู้นำ การแสดงออกทางการเมือง ต้องการให้ประชาชนชาวกัมพูชามีสิทธิมีเสียงแสดงความคิดเห็น ชาวกัมพูชาต้องการให้นักการเมืองมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล มองกว้าง ทันกาล สร้างอาชีพให้กับประชาชน

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

Objectives of this research were: 1. To study political attitude of Cambodian Residing In Ratchathewi District, Bangkok, 2. To compare people’s opinions on political attitude of Cambodian residing in Ratchathewi District, Bangkok, classified by personal factors relations and 3. To study recommendations for people’s political attitude of Cambodian Residing in Ratchathewi District, Bangkok.

Methodology was the mixed methods: The quantitative research collected data with questionnaires that had total reliability value at 0.969 from 183 samples, derived from 967 people at Ratchathewi District, Bangkok, using Taro Yamane’s formula with significant level set to 0.05. Statistics used to analyze data were frequency, percentage, mean, standard deviation, SD, hypothesis tested by t-test, F-test. The open-ended questionnaires were analyzed by table frequency. The qualitative research collected data from 8 key informants by in-depth-interviewing, analyzed data by descriptive interpretation.

             Findings of the research were as follows:

People’s Political Attitude of Cambodian Residing in Ratchathewi District, Bangkok by overall was at middle level (x̅=3.30) Each aspect was at levels from highest to lowest were that the aspect that had the highest value was Election attitude (x̅=3.38) Political liberty (x̅=3.23) and Political expression (x̅=3.23, S.D.= 0.69)  was at middle level.

3. Recommendations for people’s political attitude of Cambodian residing in Ratchathewi District, Bangkok were that: On the election side, the people of Cambodia need a leader who is capable, knowledgeable, talented, and Cambodian politicians have to be smart and capable of leadership. Political expression Want the Cambodian people to have the right to voice their opinions. Cambodians want politicians to have vision, foresight, broad vision, and create a career for the people.

รายการไฟล์