บทคัดย่อภาษาไทย

การวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของภาวะผู้นำของพระสังฆาธิการ ในการบริหารจัดการวัด จังหวัดสระแก้ว  2. เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำของพระสังฆาธิการ ในการบริหารจัดการวัดจังหวัดสระแก้ว และ 3. เพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับภาวะผู้นำของพระสังฆาธิการ ที่มีผลต่อการบริหารจัดการวัดจังหวัดสระแก้ว ระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยในส่วนของการเขียนวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถาม เป็นเครื่องมือเก็บข้อมูลภาคสนามจากพระสงฆ์ในจังหวัด จำนวน 201 รูป วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้โดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบหาค่าความสัมพันธ์ และในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพมีการวิเคราะห์เอกสาร และใช้แบบสัมภาษณ์เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลภาคสนามจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 8 รูป/คน และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาประกอบบริบท

ผลการวิจัยพบว่า

1. ภาวะผู้นำของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการวัด จังหวัดสระแก้ว โดยภาพรวม
อยู่ในระดับ มาก (X̅ =3.61, S.D. = 0.64 ) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน มากที่สุดคือ ด้านการมอบหมายงาน (X̅  = 3.66, S.D. = 0.938) รองลงมาคือ ด้านการมีส่วนร่วม
(X̅  = 3.64, S.D. = 0.837) และน้อยที่สุด ด้านการนำเสนอความคิดเห็น (X̅  = 3.46, S.D.= 0.94)                                                                                                                                                                                                                     

2. ผลวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของพระสงฆ์ที่มีต่อภาวะผู้นำของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการวัด จังหวัดสระแก้ว พบว่า อยู่ในระดับมีความสัมพันธ์กัน

                  3. ปัญหา อุปสรรค พบว่า 1. ด้านการบอกกล่าว  มีการประชุมน้อย เจ้าอาวาสไม่ค่อยพบปะพระลูกวัด ไม่สั่งงานโดยตรง 2. ด้านนำเสนอความคิดเห็น ไม่ค่อยรับฟังความเห็นของพระลูกวัด ไม่ค้นหาข้อมูล ไม่รับฟังคำชี้แนะจากผู้มีประสบการณ์ 3. ด้านการมีส่วนร่วม พระลูกวัดไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบงานต่าง ๆ ของวัด พระผู้ใหญ่ไม่ให้ผู้น้อยมีส่วนร่วม 4. ด้านการมอบหมายงาน ให้ทำงานแต่ไม่ให้อำนาจตัดสินใจ ทำงานผิดไม่ให้คำแนะนำ ข้อเสนอแนะต่อภาวะผู้นำของพระสังฆาธิการในการบริหารจัดการวัด จังหวัดสระแก้ว พระสงฆ์ควรมีการปรึกษาหารือภายในวัดกันสม่ำเสมอ เมื่อมีการสั่งงานควรบอกกล่าวด้วยตนเอง เพื่อพูดคุยรับฟังความคิดเห็นต่าง ๆ มีการปรึกษาหารือตามโอกาส รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ ให้โอกาสพระภายในวัดมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ การบริหารงานด้านต่าง ๆ และให้อำนาจหน้าที่ในการจัดการงานที่ได้มอบหมายให้

บทคัดย่อภาษาอังกฤษ

The objectives of this research were 1) to study the generality in leadership  of sangha administrators for temple management, Sa kaeo Province 2) to study the relation in leadership of sangha administrators for temple management, Sa kaeo Province and 3) to study problems, obstacles and suggestions in leadership of sangha administrators for temple management, Sa kaeo Province. This research was mixed method research, quantitative research used questionnaire as research tools that collected data from 201 monks, then analysis data by Frequencies, Mean, Standard Deviation, Relative Variation. In qualitative research used document analysis and in depth interview 8 key informants as research tools and analysis data by context content technique.

                Findings were as follows:

               1. Leadership of sangha administrators for temple management, Sa kaeo Province in all aspects were in high level (X̅ =3.61, S.D. = 0.64 ), when considered by each aspect found that every aspects were in high level as the highest was Assignment (X̅ = 3.66, S.D. = 0.938) and in order that Participation (X̅ = 3.64, S.D. = 0.807) and Discussion (X̅ = 3.46, S.D. = .94).

 2. The analysis of relation in leadership of sangha administrators for temple management, Sa kaeo Province found that all aspects were related.

3. Problems, obstacles found that 1) Notice, less of meeting and abbot did not assign works with monk in his temple 2) Discussion, abbot did not discuss with monks who live in the same temple and did not accept the experience by experts
3) Participation: Monks did not audit in the temple 4) Assignment: take many jobs but did not give the power and suggestions. The suggestions for leadership of sangha administrators for temple management, Sa kaeo Province found that abbot should be usually discuss with monks in the temple with his self and should be accepted idea or suggestions from everyone.

รายการไฟล์